“ก้าวไกล” ฟ้องกลับ “เรืองไกร” ฐานหมิ่นประมาท หลังยื่น กกต.ยุบพรรค ปมอภิปรายงบสถาบันฯ “วิโรจน์” ยันถกแค่ส่วนหน่วยงานจัดสรรงบสำนักพระราชวัง
วันที่ 28 ก.ย.64 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณี นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ดำเนินการวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล โดยกล่าวหาว่าพรรคก้าวไกล กระทำการอันเป็นการล้มล้าง หรือเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ว่า การตรวจสอบและการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 ของพรรคก้าวไกล ในมาตรา 36 งบประมาณในส่วนราชการในพระองค์นั้น เป็นการทำหน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อันเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยตามรัฐธรรมนูญ และเป็นหน้าที่อันพึงกระทำเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่ประชาชนได้ประสบกับความทุกข์ยากแสนสาหัสยิ่งเป็นหน้าที่ที่ต้องพึงกระทำ และต้องขอทำความเข้าใจแก่สาธารณชนว่า การตรวจสอบและอภิปรายร่างงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับส่วนราชการในพระองค์นั้น เป็นการอภิปรายถึงหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการจัดสรรงบประมาณ ไม่ได้เป็นการอภิปรายถึงองค์พระมหากษัตริย์แต่อย่างใด
นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า การตรวจสอบและอภิปรายก็มีเจตนารมณ์ที่สุจริต เพื่อมุ่งหวังให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดสรรงบประมาณเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ให้มีความเหมาะสมต่อสถานการณ์ เป็นการทำให้ประชาชนเห็นว่าการจัดสรรงบประมาณเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์มีความโปร่งใส อันเป็นผลดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้มีความสถาพร ยั่งยืนในภายภาคหน้า
“พรรคก้าวไกลมั่นใจว่า นายเรืองไกรที่มีประสบการณ์ทางการเมืองมาอย่างยาวนาน ย่อมรู้ข้อเท็จจริง และเจตนารมณ์ในการปฏิบัติหน้าที่โดยชอบนี้ของพรรคก้าวไกลอยู่แก่ใจ ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าพรรคก้าวไกลจะยังคงยืนหยัดทำหน้าที่ ในฐานะผู้แทนปวงชนชาวไทยอย่างเต็มที่ เพื่อปกป้อง เงินภาษีทุกบาททุกสตางค์ ที่เป็นหยาดเหงื่อของประชาชนทุกคน และจะพยายามทำให้การใช้จ่ายงบประมาณ ของรัฐบาลนำมาซึ่งเศรษฐกิจปากท้องที่ดี และสวัสดิการสังคมบนความเสมอภาคของประชาชนให้ได้มากที่สุด” นายวิโรจน์ กล่าว
นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า พรรคก้าวไกล ได้ยื่นฟ้องนายเรืองไกร ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และการกล่าวหาพรรคก้าวไกล โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 101 ต่อศาลอาญา โดยเป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.2307/2564 โดยศาลได้นัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 21 ก.พ. 2565 เวลา 9.00 น.
