โฆษกรัฐบาล เผย เงินเยียวยานักเรียน คืบหน้า จ่ายแล้วเกือบ 11 ล้านคน ด้าน กระทรวงศึกษาธิการ-กระทรวงสาธารณสุข เตรียมฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้นักเรียน

วันที่ 29 ก.ย.2564 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม รับทราบรายงานความคืบหน้าการเยียวยานักเรียนและลดผลกระทบทางการศึกษา ให้กับสถานศึกษา ครูผู้สอน นักเรียน และผู้ปกครอง โดยเยียวยานักเรียนทุกคน ทุกสังกัด คนละ 2,000 บาท ผู้ปกครองรับเงินเต็มจำนวนโดยไม่หักค่าใช้จ่าย เพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาให้แก่นักเรียนนักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ในสถานศึกษาสังกัด กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงสถานศึกษานอกสังกัดกระทรวงศึกษาธิการตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล-ม.6 และอาชีวศึกษา ประจำภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564

นายธนกร กล่าวต่อว่า โดยจ่ายเงินเยียวยาครอบคลุมเด็กนักเรียนทั้งในและนอกสังกัดกระทรวงศึกษาธิการไปแล้วทั้งสิ้น 10,952,000 ล้านคน จากเป้าหมาย 11 ล้านคน คิดเป็น 87.80 เปอร์เซ็นต์ โดยโรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการได้รับทั้งหมด 97.75 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือได้ทยอยดำเนินการส่งมอบต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการช่วยลดภาระค่าใช้ผู้ปกครองในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 นี้

นายธนกร กล่าวอีกว่า ส่วนการฉีดวัคซีนก็คืบหน้าไปอย่างมากเช่นกัน โดย ศธ.ได้วางแผนการดำเนินการฉีดวัคซีนให้แก่นักเรียน นักศึกษาในสังกัดทั้งของรัฐและเอกชน ที่มีอายุ 12-18 ปี โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ก.ย. พบว่ามีผู้สมัครใจฉีดวัคซีน จำนวน 3.61 ล้านคน จากทั้งสิ้น 5,048,081 คน คิดเป็น 71.67 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ ยังจะได้รวบรวมจำนวนเด็กนักเรียนที่ผู้ปกครองให้ความยินยอมแล้วเพิ่มเติม และจะจัดส่งให้กระทรวงสาธารณสุข เพื่อขอรับการจัดสรรวัคซีนเพิ่มเติมต่อไป

นายธนกร กล่าวว่า ทั้งนี้ นายกฯติดตามมาตรการช่วยเหลือเด็กนักเรียน ผู้ปกครอง พร้อมกำชับกระทรวงศึกษาธิการ ตรวจสอบระบบการจ่ายเงินอย่างใกล้ชิด โดยเงินทุกบาทต้องถึงมือผู้ปกครอง ตรงตามวัตถุประสงค์ ขณะเดียวกันก็ได้มอบหมายให้ ศธ. และ สธ. รณรงค์สร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่นักเรียนและผู้ปกครองว่าการฉีดวัคซีนโควิด-19 สำหรับเด็กมีความปลอดภัยและได้รับมาตรฐานองค์การอนามัยโลกและ อย.

นายธนกร กล่าวต่อว่า เพื่อให้การฉีดวัคซีนโควิด-19 สำหรับเด็กนักเรียน เยาวชน ได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอบครอบคลุมมากที่สุด รองรับการผ่อนคลายมาตรการและให้การเรียนการสอนในภาคเรียนต่อไปกลับมาสู่รูปแบบปกติทั่วประเทศให้ได้โดยเร็ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน