พิชัย เตือน ประยุทธ์ เอาคนไม่รู้เรื่องมาบริหารเศรษฐกิจ ถึงได้ล้มเหลว สวน สุพัฒนพงษ์ ไปศึกษาข้อมูล อย่าคิดแต่รีดภาษี ยากจะฟื้นเศรษฐกิจ

วันที่ 6 ต.ค.2564 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า ตามที่ตนเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ลดการเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 5 บาท เพื่อช่วยเหลือประชาชนในช่วงลำบาก ทั้งภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ วิกฤตโควิด และสภาวะน้ำท่วม สามารถทำได้จริง แต่พล.อ.ประยุทธ์กลับลดการเก็บกองทุนน้ำมันเพียง 1 บาทกว่า

นอกจากนี้ยังให้นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯ และรมว.พลังงาน มาตอบโต้ อ้างว่าหากไม่เก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ในภาวะปกติเงินภาษีรัฐจะขาดหายไปเป็นแสนล้านบาท ซึ่งเป็นความจริงที่รายได้จะหายไปมาก แต่รายได้นี้ ในสมัยรัฐบาลเพื่อไทยก็ไม่ได้รับอยู่แล้ว และยังบริหารเศรษฐกิจได้ดีกว่ารัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์มาก

อีกทั้งราคาน้ำมันโลกที่ลดลงมาตลอด 7 ปี ประเทศประหยัดเงินได้จำนวนมาก ปีละหลายแสนล้านบาท แต่พล.อ.ประยุทธ์ กลับไม่สามารถทำประโยชน์ในการพัฒนาเศรษฐกิจให้เจริญได้ และยังไปขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลที่สูงทำให้ประชาชนไม่ได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันโลกที่ลดลงเลย

ดังนั้น การที่นายสุพัฒนพงษ์ ห่วงว่ารายได้จะขาด ทั้งที่สมัยก่อนไม่ได้รายได้นี้อยู่แล้ว แสดงถึงความล้มเหลวของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ที่พึ่งแต่การรีดภาษีจากประชาชน โดยไม่สนใจความลำบากของประชาชน จึงอยากให้นายสุพัฒนพงษ์ ไปศึกษารายละเอียดในอดีตของเรื่องนี้ก่อน ในภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ รัฐบาลที่มีความสามารถและคิดได้ มักจะลดภาษีเพื่อฟื้นเศรษฐกิจ อย่างเช่นสหรัฐ จึงอยากให้นายสุพัฒนพงษ์ ไปอ่านหนังสือเศรษฐศาสตร์บ้างจะได้เข้าใจ

นอกจากนี้ข้อมูลของนายสุพัฒนพงษ์ ยังคลาดเคลื่อน ในภาวะปกติไทยใช้น้ำมันดีเซล 68 ล้านลิตรต่อวัน (ข้อมูลปี 62 ก่อนจะเกิดวิกฤตโควิด ทำให้การใช้น้ำมันดีเซลลดลงเหลือ 60 ล้านลิตรต่อวัน) ไม่ใช่ 100 ล้านลิตรต่อวัน ตามที่นายสุพัฒนพงษ์บอก จึงน่าจะต้องศึกษาให้ดีก่อนพูด

ตลอดเวลาที่นายสุพัฒนพงษ์ เข้ามาบริหารประเทศ ประชาชนยังไม่เห็นว่านายสุพัฒนพงษ์ได้ทำอะไรเป็นประโยชน์ ความล้มเหลวของนายสุพัฒนพงษ์ พิสูจน์ได้ชัดเจน เมื่อมีชื่อนายศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตผู้อำนวยการ WTO จะเข้ามาแทนนายสุพัฒนพงษ์ คนจึงดีใจกันใหญ่

ปัญหาพลังงานยังมีอย่างมาก ทั้งการผลิตไฟฟ้าเกินความต้องการถึง 50% ทำให้ราคาไฟฟ้าราคาแพงเพราะต้องจ่ายค่าความพร้อมสูง การปรับโครงสร้างราคาพลังงานที่บริษัทพลังงานเอาเปรียบประชาชน แต่นายสุพัฒนพงษ์ไม่กล้าแตะ ที่สำคัญจากข้อมูลที่ได้รับมา ไม่ทราบว่าจริงหรือไม่ที่การบริหารกระทรวงพลังงานของนายสุพัฒนพงษ์ กลับปล่อยให้นายทุนพลังงานที่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาสั่งงานทุกเรื่องได้ตามชอบใจ ขนาดข้าราชการระดับสูงยังต้องไปขออนุญาตจากนายทุนพลังงานในทุกเรื่องสำคัญ อยากให้นายสุพัฒนพงษ์ ชี้แจงว่าเรื่องดังกล่าวจริงหรือไม่ และหากเป็นจริง นายสุพัฒนพงษ์ ควรจะยังคงดำรงตำแหน่งอยู่หรือไม่

การจะฟื้นเศรษฐกิจและแก้ไขปัญหาความลำบากของประชาชน รัฐบาลจะต้องเอาประชาชนเป็นตัวตั้ง ถ้าคิดเฉพาะกรอบแคบๆ แค่ห่วงภาษีที่จะขาด รัฐบาลจะแก้ปัญหาอะไรไม่ได้เลย และจะยิ่งทำให้มีปัญหามากขึ้น ผู้บริหารเศรษฐกิจจะต้องมองภาพรวมของเศรษฐกิจและความสัมพันธ์ของเรื่องต่างๆได้ ถึงจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน