จาตุรนต์ อัด ประยุทธ์ แถลงออกทีวี เปิดประเทศแบบล้มเหลว ไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้นเลย แต่กลับแสดงให้เห็นถึงความหมดสภาพ ที่จะแก้ปัญหาวิกฤตอย่างสิ้นเชิงแล้ว

วันนี้ (12 ต.ค.) นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี แสดงความคิดเห็นต่อกรณีแถลงการณ์นายกรัฐมนตรี เมื่อคืนที่ผ่านมา (11 ต.ค.) ที่ระบุว่าจะมีการเปิดประเทศให้ต่างชาติ 10 ประเทศ เข้ามาในประเทศโดยไม่ต้องกักตัว รวมถึงเปิดกิจการกิจกรรมต่างๆ ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 โดยแสดงความเห็นไว้ผ่านแฟนเพจของตนดังนี้

การแถลงทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจเป็นการประกาศความล้มเหลวของแผนเปิดประเทศที่ประกาศไว้ว่าจะเปิดได้กลางเดือนตุลาคม การแถลงนี้ไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์โควิดและสภาพเศรษฐกิจมีลู่ทางที่จะดีขึ้น แต่กลับยิ่งแสดงให้เห็นพลเอกประยุทธ์หมดสภาพ ที่จะนำพาการแก้ปัญหาวิกฤตของประเทศอย่างสิ้นเชิงแล้ว

การประกาศเปิดประเทศในวันที่ 1 พย. ความจริงก็คือการบอกว่าแผนเดิมที่จะเปิดประเทศใน 120 วันล้มเหลวไม่เป็นท่า ขณะนี้กำลังจะครบ 120 วันแล้ว แต่มีนักท่องเที่ยวเข้าประเทศเพียงไม่กี่พันคนเท่านั้น

ไม่มีการสรุปว่าที่ไม่สำเร็จเพราะอะไร ไม่แสดงว่ามองเห็นหรือเข้าใจปัญหาใดๆ ซ้ำยังอวดอ้างความความสำเร็จต่างๆในการฉีดวัคซีนและการป้องกันรักษาชีวิตของประชาชน ทั้งๆที่ทำให้เกิดความเสียหายอย่างมากโดยไม่จำเป็น

ประเทศไทยยังฉีดวัคซีนน้อยมาก การเอาตัวเลขจำนวนโดสวัคซีนที่ฉีดไปมาโอ้อวด ทั้งๆที่ผู้ที่ฉีดวัคซีนไปแล้วจำนวนมากยังต้องหาทางฉีดเข็มที่สามเข็มที่สี่กันอยู่ ขณะที่คนอีกหลายสิบล้านคนยังไม่ได้ฉีดและผู้ที่ฉีดวัคซีนคุณภาพครบสองเข็ม(fully vaccinated) มีเพียงประมาณ 30 % เท่านั้น หลังจากที่นายกฯประกาศจะเปิดประเทศภายใน 120 วันไปเมื่อกลางเดือนมิถุนายน สิ่งที่เป็นปัญหามากที่สุดก็คือทั้งระบบไม่มีมาตรการรองรับใดๆทั้งสิ้น

ตัวชี้วัดง่ายๆของการจะเปิดประเทศก็คือเศรษฐกิจในประเทศจะต้องเปิดให้คนทำธุรกิจทำมาค้าขายหรือทำมาหากินได้ใกล้เคียงกับปรกติเสียก่อน แต่จนถึงวันนี้การรับมือกับสถานการณ์โควิดที่รัฐบาลทำอยู่ยังคงเน้นการใช้มาตรการที่เข้มงวดอย่างสะเปะสะปะและสับสนที่เน้นแต่จะคุมตัวเลขผู้ติดเชื้อ โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างเพียงพอ

ธุรกิจร้านค้าจำนวนมากต้องปิดลงและยังไม่สามารถเปิดใหม่ได้ การเดินทางในประเทศไม่สะดวก เที่ยวบินน้อย เดินทางได้แต่เวลากลางวัน ทั้งยังเจอกับมาตรการที่ลักลั่นของแต่ละจังหวัดที่ไม่ประสานกัน สภาพที่สับสนเช่นนี้ ถึงแม้เปิดประเทศต้อนรับชาวต่างประเทศก็จะไม่ประสบความสำเร็จอยู่ดี

ปัญหาสำคัญที่รัฐบาลยังคงสอบตกและไม่มีวี่แววว่าจะทำได้ดีขึ้นคือการป้องกันการระบาดระลอกใหม่ที่อาจรุนแรงกว่าที่ผ่านมาโดยเฉพาะในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้าก็คือการฉีดวัคซีนที่ช้า ไม่มีประสิทธิภาพและกระจายไม่ตรงจุด การตรวจหาผู้ติดเชื้อน้อยมากและการไม่เพิ่มห้องและเครื่องมืออุปกรณ์ในพื้นที่เสี่ยงให้เพียงพอและการทอดทิ้งคนจำนวนหลายล้านคนอยู่นอกระบบการดูแลโดยเฉพาะแรงงานข้ามชาติและชาวต่างประเทศ รัฐบาลไทยยังคงไม่ประสานร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านและประเทศในภูมิภาคทั้งๆที่เป็นเงื่อนไขสำคัญในการรับมือกับการแพร่ระบาด

การกำหนดวันในการเปิดประเทศเป็นการแสดงถึงการมียุทธศาสตร์ที่ชัดเจนของผู้นำในหลายประเทศที่เขาทำกันอย่างได้ผล เพราะผู้นำมีวิสัยทัศน์และผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งระบบมีแผนและมาตรการรองรับอย่างชัดเจน แต่สำหรับประเทศไทย การประกาศเปิดประเทศเป็นเพียงคำพูดลมๆแล้งๆของนายกรัฐมนตรีที่ไม่รู้ว่าตนเองกำลังทำอะไรอยู่ รู้เพียงแต่ว่าตนเองจะอยู่ในอำนาจให้นานที่สุดได้อย่างไรเท่านั้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน