ก้าวไกล ชี้เรียกเงินคืนโครงการรัฐ เหตุออกแบบมาตรการเยียวยาที่ล้มเหลว ย้ำต้องจ่ายเงินสดตั้งแต่แรก แนะประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรม ส่งเรื่องมาได้

วันที่ 12 ต.ค.64 นายวรภพ วิริยะโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แสดงความเห็นต่อประเด็น เรียกเงินคืนโครงการรัฐ ที่มีประชาชนเดือดร้อนเป็นจำนวนมากจากการที่รัฐบาลเรียกเงินคืนร้านค้า ที่เข้าร่วมโครงการเราชนะ ความว่า อยากชวนย้อนไปดูว่าต้นตอของปัญหานี้คือ การออกแบบมาตรการที่ไม่ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนในยามวิกฤตของรัฐบาลชุดนี้

มาตรการเราชนะ คือ มาตรการ “เยียวยา” ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่กระทบกับประชาชนจำนวนมาก หลายคนตกงาน ไม่มีรายได้ทันทีเมื่อถูกมาตรการรัฐสั่งปิด ดังนั้น การเยียวยาที่เป็นธรรมต่อคำสั่งให้ปิดกิจการ ที่จริงแล้วควรจะต้องเยียวยาประชาชนเป็น “เงินสด” ตั้งแต่แรกแล้วด้วยซ้ำ

วรภพ อธิบายต่อว่า มาตรการ “เยียวยา” ไม่ควรเอามาใช้เพื่อ “กระตุ้นเศรษฐกิจ” เพราะบริบทและวัตถุประสงค์ไม่ควรจะเหมือนกัน “เยียวยา” คือรัฐบาลใช้อำนาจรัฐ สั่งปิดกิจการร้านค้าสถานบริการ ไม่ให้รับประทานอาหารในร้าน รัฐบาลจึงต้องเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง เพราะการที่ประชาชนเดินทางน้อยลง ย่อมกระทบถึงคนอีกจำนวนมากที่รายได้ลดลง ทั้งวินมอเตอร์ไซค์ แท็กซี่ พ่อค้าตลาดนัด แม่ค้าหาบเร่แผงลอย ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

อย่างไรก็ตาม พอรัฐบาลออกนโยบายเยียวยาที่ไม่ตอบสนองต่อวิกฤต ทำให้ประชาชนที่ขาดรายได้ ต้องการ “เงินสด” มาบรรเทาภาระ ทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าหอพัก ค่าผ่อนรถ รัฐบาลจะให้ประชาชนกลุ่มนี้ทำอย่างไร ถ้าไม่จ่ายค่าเช่าหอพัก ก็จะถูกไล่ ไม่มีที่ซุกหัวนอน ค่าไม่จ่ายค่างวด ก็ถูกยึดรถ เสียเครื่องมือทำมาหากิน

ที่ย้อนแย้งที่สุดของเงื่อนไขมาตรการเหล่านี้คือ ไม่ให้ร้านค้า “ขายออนไลน์” ได้ ในวิกฤตโควิดที่ไม่ต้องการให้ประชาชนเดินทาง แต่กลายเป็นว่าการที่ร้านค้าขายออนไลน์ กลับถูกรัฐบาลเรียกเงินคืน ยิ่งตอกย้ำว่าเป็นการออกแบบนโยบายที่ผิดพลาดมาตั้งแต่แรก

วรภพ กล่าวว่า ตนและพรรคก้าวไกล พยายามสื่อสารในหลายครั้งแล้วว่า มาตรการเยียวยาที่รัฐบาลต้องทำพร้อมๆ กับการออกคำสั่งควบคุมการแพร่ระบาด คือการเยียวเป็น “เงินสด” เพื่อให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบทุกคน เข้าถึงสวัสดิการขั้นต่ำในการยังชีพ ให้ข้ามวิกฤตนี้ไปให้ได้

ดังนั้น เมื่อเป็นการออกนโยบายที่ผิดพลาดแต่แรก รัฐบาลยิ่งไม่ควรใช้เป็นเหตุในการโยนภาระทั้งหมดกลับไปที่ประชาชนแบบนี้ ต้องหาทางช่วยกันคลี่คลายปัญหาให้กับประชาชนมากกว่าที่จะโยนความผิดทั้งหมดให้กับร้านค้าแต่เพียงฝ่ายเดียว

สุดท้าย ประชาชน ร้านค้า ท่านใด ที่กังวลว่าอุทธรณ์แล้วจะไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถส่งเรื่องมาที่ผมหรือพรรคก้าวไกลได้ เราจะนำความไม่เป็นธรรมนี้เข้าสู่ กรรมาธิการพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือให้ชัดเจนต่อไปครับ” วรภพ กล่าวทิ้งท้าย

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน