วิษณุ แจงหนทาง แก้พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ยังอีกนาน ชี้รอกกต.ใหญ่เคาะ และรอรธน.ใหม่ ประกาศใช้ก่อน ทุกอย่างจบที่กกต.
เมื่อวันที่ 14 ต.ค.2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการพูดคุยกับ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรื่องการยกร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ว่า วันนี้เป็นการประชุมร่วมกันระหว่างสำนักงานเลขาธิการครม. สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และกกต. ซึ่งได้ข้อสรุปว่า กกต.จะเป็นผู้จัดทำพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. เพื่อแก้ไขเพิ่มเติมให้สอดคล้องกับร่างรัฐธรรมนูญ ที่มีการทูลเกล้าฯ ไปแล้ว
ส่วนกฎหมายพรรคการเมืองนั้น ยังไม่จำเป็นต้องแก้ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ เพราะรัฐธรรมนูญยังไม่ได้พาดพิงไปถึง แต่ดำริที่จะแก้ไขนั้น มันมีของมันอยู่ก่อนแล้ว
ฉะนั้น จะมีความเห็นจาก กกต.ชุดใหญ่อีกครั้งว่า จะเอาอย่างไร หากกกต.ชุดใหญ่เห็นว่าควรต้องแก้ไขทั้ง 2 ฉบับในคราวเดียวกัน ทั้งส.ส.และพรรคการเมืองก็จะเสนอมา แต่ถ้าจะเอาแต่เฉพาะที่เร่งด่วน ที่เกี่ยวข้องกับการแก้รัฐธรรมนูญ ก็จะมีฉบับเดียว ต้องรอให้เสนอกกต.ใหม่ก่อน
สำหรับร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ทางสำนักงานกกต.ได้ยกร่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว มีประมาณ 30 มาตรา ซึ่งเป็นเรื่องการกาบัตร 2 ใบ รวมถึงวิธีการนับคะแนน แต่จะนับอย่างไรนั้น ตนไม่รู้เพราะยังไม่เห็นร่าง เขาต้องเสนอกกต.ใหญ่ก่อน จึงจะเปิดเผยให้สาธารณชนทราบ และรับฟังความเห็นจากพรรคการเมือง และประชาชนทุกจังวหัด ก่อนรวบรวมความเห็นกลับเข้ามาที่ส่วนกลางเพื่อปรับปรุง
จากนั้นจะเสนอครม. ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 131 เมื่อครม.เห็นชอบ จะส่งให้สำนักงานคณะกรรมกฤษฎีกา ได้ตรวจสอบอีกครั้ง แล้วเตรียมส่งร่างดังกล่าวให้รัฐสภา โดยต้องรอประกาศใช้รัฐธรรมนูญใหม่ในราชกิจจานุเบกษาก่อน จึงจะส่งให้รัฐสภาต่อไป
เมื่อถามว่ามาตรา 90 ระบุต้องส่งส.ส.เขตก่อนส.ส.บัญชีรายชื่อ จะทำให้เกิดระบบเลือกตั้งเบอร์เดียวทั่วประเทศไม่ได้ หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า อันนี้ไม่ได้เกี่ยวกัน เพราะเรื่องดังกล่าวอยู่ในกฎหมายเกี่ยวกับพรรคการเมืองที่จะมีการแก้ไขกันหรือไม่ ก็ยังไม่ทราบ ถ้ากกต.ใหญ่เห็นว่าเป็นปัญหา อาจจะแก้ไปด้วย แต่ถ้าคิดว่าไม่เป็นปัญหา ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนก็ยังไม่แก้
การแก้กฎหมายพรรคการเมืองก็มีประโยชน์อยู่ เพราะเกี่ยวกับการทำไพรมารี่โหวต หรือประเด็นอื่นใด ถ้าเกิดการเลือกตั้งขึ้นเร็ว กระทันหัน ปุบปับ จะเตรียมการไม่ทัน ดังนั้น รอให้กกต.ชุดใหญ่ ได้พิจารณากันอีกครั้งก่อน
เมื่อถามว่าจะคุยกับกกต.อีกครั้งเมื่อใด นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่คุยแล้ว จนกว่าจะมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ จึงจะมาดูฤกษ์ยามว่าจะส่งร่างไปที่สภาเมื่อใด ซึ่งคิดว่าคงเสนอในอีกไม่กี่วัน เมื่อกกต.ใหญ่เห็นอย่างไรก็ปฏิบัติตามนั้น
เมื่อถามว่าหากรับฟังความเห็นแล้วยังแก้ได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ได้ เพราะการให้ติชม เพื่อแก้ไข ไม่ว่าใครก็ติชมได้ ทั้งครม.หรือประชาชน และพรรคการเมือง ซึ่งพรรคเขาต้องทำอยู่แล้ว
ทั้งนี้ เมื่อถึงเวลาประกาศใช้รัฐธรรมนูญที่แก้ไขเสร็จ ก็คงเสนอเข้าที่ประชุมรัฐสภาและต้องพิจารณาให้เสร็จภายใน 180 วัน หรือ 6 เดือน เมื่อรัฐสภาพิจารณาเสร็จแล้ว จะส่งกลับไปให้กกต.อีกภายใน 15 วัน
เมื่อถามว่ามีโอกาสที่การนับคะแนนจะกลับไปเหมือนปี 2550 หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ ตนยังไม่เห็นร่าง ซึ่งตนก็อยากรู้แต่ยังไม่อยากรู้ตอนนี้ เพราะกกต.ใหญ่เขาอาจเปลี่ยนแปลง เนื่องจากกกต.ชุดใหญ่ยังไม่เห็น
เมื่อถามว่าคาดว่าจะเสนอเข้าสู่ครม.ได้เมื่อใด นายวิษณุ กล่าวว่า อีกนาน ขั้นตอนทุกอย่างกว่าจะเสร็จ แต่เรายังมีเวลา แม้สภาจะเปิดวันที่ 1 พ.ย. ก็ยังเสนอไม่ได้ จนกว่าจะประกาศใช้รัฐธรรมนูญ
