ยิ่งลักษณ์ ส่งตัวแทนมอบถุงน้ำใจช่วยชาวสิงห์บุรี ฝากรัฐบาลเร่งเยียวยาหลังน้ำลดอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะเกษตรกรที่จะต้องขาดรายได้ไปตลอดทั้งปี

เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ส่งตัวแทนมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ต.บางกระบือ อ.เมืองสิงห์บุรี นำโดย ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช อดีตหัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ หลานสาวและอดีตนายทะเบียนพรรคทษช. นายวิม รุ่งวัฒนจินดา อดีตรองเลขาธิการพรรคทษช. และทีมเลขาน.ส.ยิ่งลักษณ์

ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ฝากให้กำลังใจพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมทุกๆครอบครัว เชื่อว่าทุกอย่างจะผ่านพ้นไปโดยเร็ว และอยากฝากถึงรัฐบาล เรื่องการเยียวยาหลังน้ำท่วมขอให้ทั่วถึงและเป็นธรรมต่อพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อน โดยเฉพาะเกษตรกร ที่จะต้องขาดรายได้ไปตลอดทั้งปี เพราะพืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหาย สำหรับพี่น้องชาวจังหวัดสิงห์บุรี ท่านนายกฯ ฝากให้กำลังใจ ขอให้ทุกคนผ่านพ้นความลำบากนี้ไปให้ได้ ในช่วงปี 54 ท่านนายกฯได้เดินทางมีตรวจงานที่สิงห์บุรีบ่อยมากๆ

ด้านนายวิม กล่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์โทรมาสอบถามถึงสถานการณ์น้ำท่วม หลังจากมีข่าวว่าหลายจังหวัดถูกน้ำท่วม จนทำให้ประชาชนต้องกลายเป็นผู้ประสบภัย โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลาง ตลอดจนภาคอีสาน ที่ปีนี้ภาคอีสานกลายเป็นพื้นที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมมากที่สุด น.ส.ยิ่งลักษณ์จึงคิดว่าเบื้องต้นเพื่อลดปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนผู้ประสบภัยก่อน

โดยเฉพาะเรื่อง อาหาร น้ำดื่ม และยาสามัญประจำบ้าน ที่จำเป็นต้องใช้ ท่านจึงให้ทีมงานช่วยกันจัด “ถุงน้ำใจจากยิ่งลักษณ์” เพื่อนำมามอบให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ประสบภัย ที่หน่วยงานรัฐยังไม่เข้ามาช่วยเหลือ หรือบางพื้นที่ที่อาจถูกมองข้ามไป ซึ่งทางทีมงานก็ได้ประสานไปยังกลุ่มผู้ประสบภัย ได้รับความเดือดร้อนจริงๆ

นอกจากพื้นที่สิงห์บุรี และพิจิตรที่ทีมงานดำเนินการในวันนี้แล้ว วันต่อไปๆก็จะนำถุงน้ำใจจากยิ่งลักษณ์ ไปมอบให้กับประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่อื่นๆต่อไป เช่น จันทบุรี และพื้นที่ในภาคอีสานที่ขณะนี้ยังมีฝนตกหนักและเหตุการณ์น้ำท่วมฉับพลันอยู่ด้วย ทั้งนี้ เบื้องต้นคงไม่สามารถ นำไปมอบให้กับประชาชนได้ทุกครัวเรือน แต่ก็จะพยายามนำไปมอบให้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถดำเนินการได้

“ปัญหาน้ำท่วมปีนี้คงไม่หนักเท่ากับปี 2554 ที่ประเทศไทยเจอมรสุมหลายลูกติดต่อกัน ทำให้ปริมาณน้ำเหนือเขื่อนมากกว่าปกติ และน้ำใต้เขื่อนก็มากจนล้นตลิ่ง เมื่อมีการระบายน้ำออกจากเขื่อน ทำให้พื้นที่รับน้ำตามธรรมชาติ ไม่สามารถรับไหว ประกอบการระบายน้ำก็มีปัญหา ทั้งหน่วยงานและข้อกฏหมาย จึงกลายเป็นปัญหาใหญ่ แต่ก็เป็นที่น่าเสียดาย ที่ก่อนหน้านี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้รับรู้และมองเห็นปัญหาจากประสบการณ์จริงและได้จัดทำแผนบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ

โดยแก้ทั้งอุทกภัยและภัยแล้ง ซึ่งในแผนดังกล่าวมีทั้งเส้นทางระบายน้ำ และการจัดทำแก้มลิงกักเก็บน้ำไว้ใช้หน้าแล้ง ตามแนวพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 9 ตลอดจนกำแพงป้องกันน้ำท่วมในเขตเมือง ตั้งแต่จังหวัดนครสวรรค์ ลงมาถึงกรุงเทพฯ แต่โครงการดังกล่าวก็ถูกยับยั้งและรัฐบาลของนายกฯยิ่งลักษณ์ ถูกรัฐประหาร รัฐบาลใหม่ก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้ง จึงทำให้พี่น้องประชาชนเดือดร้อนซ้ำแล้วซ้ำอีก มาตลอด” นายวิม กล่าว

ขณะที่ชาวบ้านบางกระบือระบุว่า ซอยของพวกตนเป็นซอยที่ถูกลืม จนวันนี้ยังไม่ได้รับของช่วยเหลือจากทางรัฐบาล แต่ไม่ว่าใครจะลืมพวกตน นายกฯยิ่งลักษณ์ ก็ไม่เคยลืม ขอขอบคุณน.ส.ยิ่งลักษณ์ที่ไม่เคยลืมพวกเรา และขอให้ท่านได้กลับมาประเทศไทยไวๆ พวกเราคิดถึงท่าน

จากนั้นคณะได้เดินทางต่อไปยัง บ้านน้ำตาล อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี เพื่อลงเรือเข้าไปมอบถุงยังชีพ พร้อมให้กำลังใจชาวบ้านบ้านน้ำตาลที่ถูกน้ำท่วมบ้านเรือน

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน