เมื่อวันที่ 24 ต.ค.นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.) ในฐานะเลขาธิการศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ(ศอตช.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการพิจารณาเรียกค่าเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าวที่เหลือร้อยละ 80 ว่า ศอตช.จะบูรณาการทุกหน่วยงานในภาพรวมทั้งหมด แต่ในส่วนป.ป.ท.ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นคดีความที่ป.ป.ท.พิจารณาดำเนินการอยู่ จากเดิมที่มี 853 คดี ซึ่งมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งสำนวนเข้ามาเพิ่มเติมเข้ามารวมเป็น 986 คดี ซึ่งป.ป.ท.ได้ทยอยส่งให้คณะกรรมการป.ป.ท.พิจารณาและมีมติสั่งให้ไต่สวนแล้ว 125 คดี จากนี้จะตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาตามจำนวนคดี และตั้งเป้าจะพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือนก่อนส่งให้คณะกรรมการป.ป.ท.พิจารณาชี้มูลต่อไป หากเห็นว่ามีมูล ถ้าเป็นคดีอาญาจะส่งให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องร้อง หากเป็นเรื่องของวินัย หรือค่าเสียหาย จะส่งให้ต้นสังกัดดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

“ยืนยันว่าการทำงานของป.ป.ท.เป็นอิสระจากฝ่ายบริหาร ทั้งนี้การตั้งอนุกรรมการตามจำนวนคดี ถึงแม้เราจะมีบุคลากรไม่เพียงพอ แต่เราก็จะทำงานตามขั้นตอน สลับบุคลากรเข้าไปทำงานในทุกชุดอนุกรรมการให้การทำงานเดินไปอย่างรวดเร็ว” นายประยงค์ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน