ลุ้นชี้ชะตา 4 “แกนนำ กปปส.” ร่วมกันก่อกบฏ ชั้นอุทธรณ์ หลังศาลชั้นต้นยกฟ้อง เมื่อปี 2562 อดีต กปปส. “กำนันเทือก” มาเดินทางมาให้กำลังใจอื้อ ที่ศาลอาญา

เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 64 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีกบฎ กปปส.สำนวนแรก หมายเลขดำ อ.1191/2557, อ.1298/2557 , อ.1328/2557 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม อายุ 59 ปี แกนนำ กปปส. , นายสกลธี ภัททิยกุล อายุ 44 ปี อดีต ส.ส.กทม.ร่วมชุมนุม , นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อายุ 70 ปี อดีตอธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และอดีตประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูปการเมือง และสภาปฏิรูปการเมือง (สปช.) และ นายเสรี วงศ์มณฑา อายุ 72 ปี นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนและการตลาด

เป็นจำเลยที่ 1- 4 ในความผิดฐานร่วมกันเป็นกบฏ , กระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หรือวิธีอื่นใดที่ไม่ใช่การกระทำในความมุ่งหมายตามรัฐธรรมนูญเพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือความไม่สงบในราชอาณาจักรฯ , อั้งยี่ , ซ่องโจร , มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองโดยมีอาวุธ โดยเป็นหัวหน้าหรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการ , เจ้าพนักงานสั่งให้เลิกการกระทำนั้นแต่ไม่เลิก, ยุยงให้ร่วมกันหยุดงาน การร่วมกันปิดงานงดจ้างเพื่อบังคับรัฐบาล , ร่วมกันบุกรุก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113 , 116, 117, 209, 210, 215, 362, 364, 365 และร่วมกันขัดขวางเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง , ร่วมกันขัดขวางการปฏิบัติงานของ กกต. ความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มา ซึ่ง ส.ว. พ.ศ. 2550 มาตรา 76 ,152 รวม 8 ข้อหา

โดยคดีสำนวนแรกนี้ อัยการยื่นฟ้อง ตั้งแต่ปี 2557 กรณีสืบเนื่องจากการร่วมชุมนุมกันของ กปปส.ที่มีนายสุเทพ เป็นผู้นำการชุมนุมเพื่อขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อระหว่างวันที่ 23 พ.ย. 56 – 1 พ.ค.57 ซึ่งมีการพาผู้ชุมนุมบุกรุกปิดสถานที่ราชการหลายแห่ง รวมทั้งขัดขวางการเลือกตั้ง ซึ่งท้ายคำฟ้องอัยการโจทก์ยังได้ขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งของจำเลยด้วยมีกำหนด 5 ปี ขณะที่จำเลยทั้ง 4 รายให้การปฏิเสธทุกข้อหาพร้อมตั้งทนายความสู้คดี ระหว่างพิจารณาคดีจำเลยทั้งสี่ก็ได้รับการปล่อยชั่วคราว ซึ่งคดีเริ่มสืบพยานตั้งแต่ปี 2558-2562

คดีนี้ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 25 ก.ค.62 พิพากษายกฟ้องโดยพิเคราะห์พยานหลักฐานที่โจทก์-จำเลย นำสืบหักล้างกันแล้ว เห็นว่า พยานหลักฐานที่อัยการโจทก์นำสืบมารับฟังได้เพียงว่าจำเลยทั้ง 4 รายได้เข้าร่วมชุมนุม กับกปปส. แต่ไม่ได้เป็นแกนนำที่สั่งการผู้ชุมนุมหรือขึ้นปราศรัยสั่งการให้กระทำการรุนแรง โดยการชุมนุมของ กปปส.ศาลรัฐธรรมนูญก็ได้วินิจฉัยไว้แล้วในคำวินิจฉัยที่ 59/2556 ว่าการชุมนุมของกปปส. สืบเนื่องมาจากการแสดงความคิดเห็น ซึ่งเป็นสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญฯ มาตรา 63 ซึ่งสืบเนื่องจากเหตุที่คัดค้านการออกร่างกฎหมายนิรโทษกรรมและไม่พอใจการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบมาจึงยังไม่พอฟังได้ว่าจำเลยทั้งสี่ได้กระทำความผิดตามฟ้องทั้ง 8 ข้อหา จึงพิพากษายกฟ้อง

โดยวันนี้ จำเลยทั้งสี่เดินทางมาศาลพร้อมด้วยเเกนนำ กปปส.หลายคนอาทิเช่น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส.นายถาวร เสนเนียม, นายสกลธี ภัททิยกุล, นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ที่เดินทางมาให้กำลังใจ โดยนายสุเทพ เปิดเผยว่า วันนี้ก็เดินทางมาให้กำลังใจกับจำเลยทั้ง 4 คน และก็พร้อมน้อมรับตามคำพิพากษาของศาล แม้ว่าจะเป็นศาลใดก็ตามก็เชื่อว่ามีการตัดสินไปตามหลักของกระบวนการยุติธรรม ส่วนในคดีกบฏ สำนวนของตัวเองนั้นก็เตรียมยื่นอุทธรณ์คดีในเดือน พ.ย.นี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน