ไพบูลย์ ลั่นสบายใจ ยันยุบพรรคประชาชนปฏิรูปแล้วเข้าพลังประชารัฐ ทำตามกฎหมาย ขู่ฟ้องหมิ่นคนกล่าวหาใส่ร้าย เสรีพิศุทธ์ เจอรายแรก

เมื่อวันที่ 20 ต.ค.2564 จากกรณีประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งคำร้องตามที่ 60 ส.ส.ฝ่ายค้าน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ว่า สมาชิกภาพ ส.ส.ของ นายไพบูลย์ นิติตะวัน สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101(10) ประกอบมาตรา 90 และมาตรา 91 วรรคหนึ่ง (5) หรือไม่ หลังจากนายไพบูลย์ ในฐานะส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ หลังจากพรรคประชาชนปฏิรูปสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมือง ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 91 วรรคหนึ่ง (7) ทั้งที่ยังคงต้องปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูปอยู่จนกว่าการชำระบัญชีจะเสร็จ และมิได้เป็นผู้มีชื่อในบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ของพรรคพลังประชารัฐ ที่ยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก่อนปิดการรับสมัครเลือกตั้งนั้น เป็นเหตุให้สมาชิกภาพสิ้นสุดลงหรือไม่

ล่าสุด ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเสียงข้างมาก 7 ต่อ 2 เสียง พิจารณาว่า การกระทำดังกล่าวของ นายไพบูลย์ ถือว่า ทำได้ตามพ.ร.ป.พรรคการเมือง

ขณะที่เสียงข้างน้อย เห็นว่า การยุบพรรคตัวเองเป็นการกระทำที่ไม่สุจริต เพราะกรณีนี้หัวหน้าพรรคถือว่า เป็นผู้มีส่วนได้เสียในการดำเนินการยุบพรรค ไม่ควรได้รับความคุ้มครองตาม มาตรา 101 ตามพ.ร.ป.พรรคการเมือง

นายไพบูลย์ กล่าวภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า ตนขอขอบคุณศาลรัฐธรรมนูญ ที่วินิจฉัยในข้อกฎหมายที่ชัดเจน ทำให้ตนสบายใจขึ้นจากข้อครหาที่หลายฝ่ายกล่าวหา และขอบคุณศาลรัฐธรรมนูญที่ให้ความยุติธรรมและความชัดเจนกับสังคม ทั้งนี้ ยืนยันว่าได้ดำเนินการตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง

นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่า ในสัปดาห์หน้า ตนจะยื่นฟ้องต่อศาลอาญา ข้อหาหมิ่นประมาทกับพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย จากการให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งตนฟังรายละเอียดแล้วพบว่ามีถ้อยคำที่หมิ่นประมาท โดยการฟ้องดังกล่าว เพราะตนไม่ต้องการให้เกิดการให้ข่าวที่บิดเบือน ใส่ความ หรือหมิ่นประมาท ทำให้สังคมเข้าใจผิด ส่วนประเด็นที่จะฟ้องอย่างเป็นทางการนั้น จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง และตนจะฟ้องคดีกับบุคคลที่กล่าวหา ใส่ร้าย หมิ่นประมาทในลักษณะเดียวกันด้วย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน