เมื่อวันที่ 20 ต.ค.2564 เวลา 15.50 น ที่วิทยาลัยเทคนิคสิงห์บุรี ต.บางพุทธา อ.เมือง จ.สิงห์บุรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานเปิดโครงการ “ส่งสุขภาพดีให้คนไทย #จากใจไปรษณีย์ไทย Delivers Wellness” และกดปุ่มปล่อยโดรนสำหรับนำจ่ายกล่องยาไปยังบ้านผู้ป่วย เพื่ออำนวยความสะดวกในสถานการณ์ที่มีข้อจำกัดด้านการขนส่ง ทั้งสถานการณ์โควิด-19 น้ำท่วม หรือพื้นที่ทุรกันดารห่างไกลให้มีความราบรื่นยิ่งขึ้น

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ปัจจุบันคนไทยต้องรับมือกับภาวะวิกฤตรอบด้าน แต่เราก็สามารถลุกได้ไว จากความร่วมมือของประชาชนและทุกภาคส่วนที่มีความพร้อมในการเปลี่ยนแปลง อาทิ วิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ประเทศไทยมีการควบคุมได้ค่อนข้างดี แม้มาตรการทั้งหมดจะยังไม่สมบูรณ์ 100% แต่แสดงถึงสัญญาณที่ดีจากความร่วมมือให้สถานการณ์คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น จึงได้มอบนโยบายให้ทุกหน่วยงานร่วมกันพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการบูรณาการและสนับสนุนการพัฒนาระบบบริการสาธารณสุขให้มีความทันสมัย ให้ประชาชนคนไทยสามารถเข้าถึงบริการได้ง่ายอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) กล่าวว่า กระทรวงฯ ตอบรับนโยบาย โดยการใช้ศักยภาพในการขนส่งและเครือข่ายที่ครอบคลุมทุกครัวเรือนในประเทศของไปรษณีย์ไทย ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจรและมีความเชี่ยวชาญในการขนส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ไปยังโรงพยาบาลทั่วประเทศ การส่งยาและเวชภัณฑ์จากโรงพยาบาลไปยังผู้ป่วยทั่วไปและผู้ป่วยโควิด-19 ในโครงการ Home Isolation-Community Isolation มาผนวกกับอุปกรณ์เทคโนโลยีดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพสูงและมีความแม่นยำระยะไกลอย่าง “โดรน” พัฒนาให้เป็นยานพาหนะในการจัดส่งยารวมถึงอุปกรณ์ที่จำเป็นให้ถึงบ้านผู้ป่วย

ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ไปรษณีย์ไทยพร้อมดำเนินการสอดรับนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงฯ จากการริเริ่มเป็นผู้ขนส่งยาจากโรงพยาบาลถึงบ้านผู้ป่วยเป็นรายแรกของไทย จนได้รับความเชื่อมั่นและไว้วางใจจากผู้ใช้บริการและโรงพยาบาลกว่า 400 แห่ง เป็นผู้ขนส่งสิ่งของหรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นต้องรักษาอุณหภูมิ

รวมไปถึงการสร้างแคมเปญ “ไปรษณีย์ไทยส่งให้ ชวนคนไทยอยู่บ้าน” สอดรับกับการให้บริการประชาชนในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ผู้ป่วยในทุกพื้นที่สามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม นอกจากนี้ ไปรษณีย์ไทยยังให้การสนับสนุนโครงการจัดส่งยา เวชภัณฑ์ รวมถึงเตียงสนามไปยังโรงพยาบาลสนามทั่วประเทศ ตอกย้ำความเป็นเพื่อนแท้ร่วมทางของไปรษณีย์ไทยในการยกระดับคุณภาพสาธารณสุขและการเข้าถึงพื้นที่ห่างไกลได้เป็นอย่างดี

“ไปรษณีย์ไทยดำเนินการจัดส่งยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ไปยังผู้รับทั่วประเทศอย่างรวดเร็วแม่นยำ ด้วยมาตรฐานบริการ EMS ส่งด่วนทั่วไทย พร้อมมั่นใจด้วยระบบ Track&Trace ให้ติดตามตรวจสอบสถานการณ์จัดส่ง ซึ่งในปี 2563-2564 ที่ผ่านมา แม้อยู่ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ไปรษณีย์ไทยยังคงเปิดให้บริการและจัดส่งยาถึงผู้ป่วยได้อย่างต่อเนื่อง รวมกว่าหนึ่งล้านสองหมื่นชิ้น จนปัจจุบันได้ขานรับนโยบายจากกระทรวงฯ ทดลองให้บริการจัดส่งยาผ่านการบินโดรนระยะไกลในพื้นที่จ.สิงห์บุรี คาดหวังว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาพัฒนาด้านสาธารณสุข สามารถให้บริการจัดส่งยาให้กับผู้ที่มีความต้องการได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางออกจากบ้าน ซึ่งจะมีการต่อยอดพัฒนาการบินโดรนขนส่งยาร่วมกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อร่วมกันพลิกโฉมด้านการขนส่งในประเทศต่อไป”ดร.ดนันท์ กล่าว

สำหรับผู้ที่ต้องการใช้บริการจัดส่งยาเพื่อความสะดวกและลดการแออัด สามารถติดต่อขอใช้บริการพร้อมสอบถามอัตราค่าส่งยาและเวชภัณฑ์ทางไปรษณีย์ได้ที่โรงพยาบาลที่เข้ารับการรักษา และสำหรับโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลใดที่ต้องการเปิดให้บริการในลักษณะดังกล่าว สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ฝ่ายการขายและการตลาดไปรษณีย์ด่วนพิเศษโลจิสติกส์ โทรศัพท์ 0-2831-3975, 0-2982-8222 หรือทาง THP Contact Center 1545 www.thailandpost.co.th และที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน