“พิเชษฐ” สบายใจหลัง ศาล รธน. วินิจฉัยกรณี “ไพบูลย์” เผย หลัง 18 พ.ย.จ่อสมัครสมาชิก พปชร. หลังคุย “ธรรมนัส” อ้าแขนรอรับ ไม่ทิ้งกัน เพราะร่วมรัฐบาลกันมา

เมื่อวันที่ 20 ต.ค.64 นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธรรมไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยกรณีนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ เลิกหรือยุบพรรคประชาชนปฏิรูปเพื่อเข้าพรรคพลังประชารัฐ ว่า สมาชิกภาพการเป็นส.ส.ของนายไพบูลย์ ไม่สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนุญ ว่า

ในส่วนพรรคประชาธรรมไทย มีมติคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า ได้มีมติยุบพรรคแล้วเรียบร้อย ซึ่งเรื่องส่งมายังสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อรอประกาศในราชกิจจานุเบกษา ว่าพรรคประชาธรรมไทยได้เลิกหรือยุบพรรค ทำให้ตนต้องไปหาพรรคสังกัดภายใน 60 วัน ซึ่งขณะนี้เกินระยะเวลาที่กำหนดแล้ว

แต่จากการตรวจสอบไปยัง กกต. ทราบว่ากรณีพรรคประชาธรรมไทย จะประกาศในราชกิจจาฯ วันที่ 18 พ.ย. หากตนจะย้ายพรรคสามารถทำได้หลังวันที่ 18 พ.ย.ไปแล้ว ทั้งนี้ การดำเนินการทุกอย่างของพรรคประชาธรรมไทยเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อย ขาดเพียงอย่างเดียวคือการส่งงบดุลปี 63-64 ซึ่งจะส่งตอนนี้ไม่ได้ แต่ต้องรอราชกิจจาฯ ประกาศก่อน ตนไม่ได้กังวลอะไรปลอดภัยทุกอย่าง

เมื่อถามว่าคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญถือเป็นประโยชน์ต่อพรรคเล็กหรือไม่ นายพิเชษฐ กล่าวว่า วันนี้รู้สึกสบายใจหลังจากได้ฟังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เพราะก่อนหน้านี้ไม่ชัดเจน ซึ่งเป็นประโยชน์ เพราะหากรัฐธรรมนูญที่แก้ไขไปแล้วมีผลบังคับใช้ รวมถึงกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้อง ที่จะทำให้การเลือกตั้งครั้งหน้าจะมีส.ส.เขต 400 คน และส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน

และดูแนวโน้มว่า ขั้นต่ำของบัญชีรายชื่อหากคิด 1% คะแนนขั้นต่ำจะต้องได้ 3.5 – 3.8 แสนคะแนน ถามว่าพรรคเล็กจะอยู่อย่างไร จึงเป็นแนวทางที่พรรคเล็กคงนำมาใช้ตัดสินใจ ขณะเดียวกันผู้ใหญ่ที่ดูแลพรรคเล็กอีก 10 กว่าพรรคที่ได้ร่วมรัฐบาลมาตั้งแต่ต้น ก็ได้ให้ความเมตตาว่าถ้ารัฐธรรมนูญใหม่บังคับใช้ พรรคเล็กก็จะลำบาก ถ้าใครอยากทำต่อก็จะช่วยส่งเสริมดูแล แต่ถ้าไม่ไหวพรรคใหญ่ก็พร้อมให้เข้ามาอยู่ด้วย

“ผมได้พูดคุยกับร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ที่เขาดูแลพรรคเล็กมาตลอด ได้ส่งสัญญาณว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ บอกว่าเราไม่ทิ้งกัน เพราะดูแลร่วมรัฐบาลกันมา ถ้ามีอะไรให้ช่วยเหลือก็บอกมา ถ้าคิดว่าจะมาอยู่ด้วยก็ยินดีต้อนรับ

ผมก็ตอบไปว่าผมสนใจ และคุยไปสั้นๆ ว่านโยบายของพรรคเล็กแต่ละพรรค ไม่สามารถขับเคลื่อนได้เลย ถ้าเราไปอยู่พรรคใหญ่แล้วท่านเห็นว่านโยบายเป็นประโยชน์ ก็สามารถนำไปขับเคลื่อนได้ ผมจึงคิดว่าจะไปอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ โดยเฉพาะการขับเคลื่อนนโยบายในการดูแลพี่น้องมุสลิมในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ และการสานสัมพันธ์กับซาอุดิอาระเบีย ซึ่งหลังวันที่ 18 พ.ย. ผมจะไปทำเรื่องสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ” นายพิเชษฐ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน