หน.ไทยภักดี “วรงค์ เดชกิจวิกรม” ออกโรงเตือนนายกฯ ไพบูลย์โมเดล ดึงประเทศย้อนหลัง ชี้ เห็นทิงทางการเมืองที่เกิดขึ้นที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน เริ่มไม่สบายใจ

เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี เขียนข้อความทางเฟซบุ๊ก วิจารณ์ประเด็นสถานการณ์ โดยเตือนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีว่า ให้ระวัง ไพบูลย์โมเดล จะนำการเมืองไทย ถอยหลังลงคลอง มีรายละเอียดดังนี้

เตือนท่านนายกอีกครั้ง ผมจำได้ว่า รัฐธรรมนูญ 2540 ไม่ห้ามการควบรวมพรรคการเมือง จึงเกิดการซื้อตัว ส.ส. เพื่อให้ได้เสียงมากขึ้น สุดท้ายก็เกิดเผด็จการรัฐสภา ออกกฎหมายเอื้อการทุจริตคอร์รัปชัน หนีไม่พ้นการชุมนุมขับไล่และสู่การรัฐประหาร ตอนท่านพลเอกประยุทธ์ รัฐประหารครั้งล่าสุด ท่านน่าจะจำได้ว่า ประชาชนออกมามอบดอกไม้ให้กำลังใจ เพราะเบื่อหน่ายการเมือง ทั้งโกง และใช้อำนาจไม่ชอบตามอำเภอใจ

แม้การเลือกตั้งครั้งล่าสุด ประชาชนก็ยังเทคะแนนเสียงให้ท่าน เพราะฝากความหวังว่า ท่านจะต้องนำพาประเทศให้ดีขึ้น จัดการพวกจ้องทำลายสถาบัน รวมทั้งพวกทุจริตคอร์รัปชัน แต่เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ผมเองยังเชื่อมั่นว่าท่านยังมีความซื่อสัตย์สุจริต แต่ภาพองคาพยพต่างๆ ที่เกิดขึ้น มันชักจะดูแปลกๆ ผมก็ยังมองโลกในแง่ดีว่าท่านไม่ทราบ แต่สิ่งที่เกิดขึ้น เกิดในสมัยรัฐบาลนี้ มีท่านเป็นผู้นำ

สังคมเริ่มแคลงใจ เมื่อมีการแก้ไขบัตรสองใบเหมือนรัฐธรรมนูญ 40 โดยเฉพาะ สว.ที่ทุกคนรับรู้ว่า คสช.เป็นผู้แต่งตั้ง และเชื่อว่าเป็นผู้มีวุฒิภาวะ แต่ไปโหวตร่วมกับ ส.ส. ประชาชนเริ่มมอง ส.ว.ไม่ดี ที่เลวร้ายประธานแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่กล้ามาออกทีวีชี้แจงประชาชนกรณี”ลักไก่”

สิ่งที่แปลกๆ ก็คือ มีการเรียกร้องให้ท่านนายกใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญมาตรา148 (2) เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย แต่ฝ่ายกฎหมายรัฐบาลบอกว่านายกไม่มีอำนาจ ซึ่งมันขัดแย้งกับความเห็นนักกฎหมายทั่วไป ประชาชนชักเริ่มสงสัยในความคิดของท่าน มาเจอปัญหาไทยคม ตอนแรกก็อุ่นใจ ที่ท่านตั้งกรรมการสอบ แต่ไปๆ มาๆ ไทยคม 4 และ 6 ที่รับมอบมากลับอ้างว่าบริหารไม่ได้ ต้องจ้างบริษัทไทยคมมาบริหาร ทั้งๆ ที่ทุกคนรับรู้ว่า รัฐมนตรีกระทรวงนี้คือ ลูกจ้างเก่าของเจ้าของบริษัทไทยคม จนคนในพรรคพลังประชารัฐเอง ก็ยังโพสต์เฟสวิจารณ์ ที่สำคัญบริษัทไทยคมมีความไม่โปร่งใส และเป็นคู่ขัดแย้งเรื่องดวง 7 และ 8 กับรัฐบาลด้วย

มาล่าสุดกรณี “ไพบูลย์โมเดล” ซึ่งรัฐธรรมนูญมาตรา 99 กำหนดชัดเจนว่า “ในระหว่างอายุของสภาผู้แทนราษฎร จะมีการควบรวมพรรคการเมือง ที่มีสมาชิกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมิได้” เพราะเคยเกิดปัญหาในรัฐธรรมนูญ 2540 นำไปสู่เผด็จการรัฐสภา จนเกิดความกังขาในสังคมว่า มีใครใช้ใบสั่งกับใครหรือไม่ ผมเห็นทิศทางการเมืองแล้ว บอกตรงๆ ว่าไม่สบายใจ กับสิ่งที่เกิดขึ้น เราต้องป้องกันการทุจริต กระบวนการยุติธรรมต้องให้สังคมยอมรับ ไม่ควรมีการใช้อำนาจที่ไม่ชอบเหนือองค์กรอิสระ แต่ทิศทางหลายอย่างกำลังเดินเหมือน 20 ปีที่ผ่านมา “ไพบูลย์โมเดล” กำลังจะดึงประเทศย้อนหลัง

อยากให้ท่านเตือนสติใครก็ได้ ที่ท่านคิดว่ามีอำนาจเป็นผู้เล่น อย่าดึงประเทศถอยหลังอีกเลย เพราะทิศทางการเดินมันดูคุ้นๆ คล้ายๆ กับระบอบทักษิณ ผมยังเชื่อมั่นในตัวท่านนายก ว่าท่านคิดดีต่อชาติ แต่ชักเริ่มไม่ไว้ใจคนที่กำหนดเกมส์ ที่กำลังจะเดินไปสู่ปัญหาใหม่ของประเทศ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน