บิ๊กบี้ ลงพื้นที่ชายแดนตะวันตก หลังแรงงานเมียนมาทะลัก รับเปิดประเทศ กำชับจนท.ดำเนินคดีทั้งแรงงานเถื่อน-คนนำมา เผยแค่เดือนต.ค. พบลักลอบถึง 61 ครั้ง
เมื่อวันที่ 26 ต.ค.2564 พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. เดินทางตรวจเยี่ยมชายแดนทางด้านตะวันตกไทย-เมียนมา ด้านอ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรสีห์ เพื่อติดตามภารกิจป้องกันชายแดน สกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมาย โดยเฉพาะแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายและไม่ผ่านการคัดกรองโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นไปตามบัญชาของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ที่ให้เหล่าทัพบูรณาการร่วมกับส่วนราชการที่รับผิดชอบ เตรียมความพร้อมรับการเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย.นี้
ผบ.ทบ. กล่าวว่า แนวโน้มการลักลอบเข้าเมืองในปัจจุบันเพิ่มมากขึ้น ทำให้การปฏิบัติภารกิจของเจ้าหน้าที่ยากลำบากยิ่งขึ้น ขอให้ปฏิบัติงานระมัดระวัง และนำยุทโธปกรณ์พิเศษมาใช้เฝ้าตรวจ ติดตั้งไฟส่องสว่างเพื่อช่วยตรวจการณ์ในเวลากลางคืน วางเครื่องกีดขวางปิดกั้นช่องทางธรรมชาติ รวมทั้งการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานในจังหวัดอย่างใกล้ชิด รวบรวมข้อมูล พยานหลักฐาน และติดตามการปฏิบัติทุกขั้นตอนนำไปสู่ต้นตอของขบวนการนำพา และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกคน ดูแลพื้นที่ชายแดนให้ปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลังเพื่อประเทศชาติ
ทั้งนี้ ในปี 2564 กองกำลังสุรสีห์ ซึ่งดูแลพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน จ.กาญจนบุรี ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์ จับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายและผู้นำมาได้ 3,036 คน สถิติล่าสุดตั้งแต่ 1-25 ต.ค.2564 ตรวจพบการลักลอบ 61 ครั้ง ผู้หลบหนีเข้าเมือง 928 คนและผู้นํามา 33 คน ซึ่งมีแนวโน้มที่สูงขึ้น จึงต้องเฝ้าระวัง และเพิ่มมาตรการต่างๆ อย่างเข้มงวด
ส่วนการติดตามการดําเนินคดีกับผู้นํามานั้น ตั้งแต่ 1 ต.ค.2563 ถึงปัจจุบัน มีจํานวน 83 คดี และศาลตัดสินแล้ว 25 คดี ถือเป็นการปฏิบัติงานของกองกำลังป้องกันชายแดน ที่สามารถช่วยแก้ปัญหาแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองด้วยกระบวนการตามกฎหมายอย่างเป็นระบบ
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวว่า การตรวจชายแดนในครั้งนี้ นอกจากจะรับทราบภารกิจด้านความมั่นคง เพื่อขับเคลื่อนนโยบายเปิดประเทศของรัฐบาล ผบ.ทบ.ยังให้ความสำคัญกับการดูแลคุณภาพชีวิตของกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดน ได้ให้กำลังใจ กำชับให้ทุกคนทำงานด้วยความระมัดระวัง ทั้งในภารกิจสกัดกั้นเฝ้าตรวจชายแดน และการป้องกันโรคโควิด-19
