เปิดเบื้องหลัง พปชร.ถกเครียด ‘บิ๊กป้อม’ เดือดกลางวงข้าวต้ม ลั่นถ้ายังไม่เลิกทะเลาะกัน กูลาออก โชว์อุ้ม ‘ธรรมนัส’ ชี้ถ้าไม่เอาเขาแล้วจะเอาใคร

วันที่ 28 ต.ค.64 รายงานข่าวจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยความเคลื่อนไหวภายในพรรคเพื่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนโครงสร้างคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) และเลขาธิการพรรค โดยหลังจากช่วงบ่ายวันที่ 26 ต.ค. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา เลขาธิการพรรค เข้าพบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อฯ เพื่อหารือเรื่องดังกล่าว

จากนั้นช่วงเย็นวันเดียวกัน พล.อ.ประวิตร ได้ต่อสายหากรรมการบริหารพรรคทุกคนเพื่อไม่ให้เซ็นใบลาออกจนกว่าจะประชุมวันนี้ (28 ต.ค.) ทำให้มีส.ส.ที่เซ็นใบลาออกรอไว้แล้วแต่ยังไม่ได้ยื่น ประสานไปยัง 6 รัฐมนตรีเพื่อขอถอนใบลาออก ทำให้เหลือคนที่เซ็นใบลาออกแล้วเพียง 6 คนนั้น

ปรากฏว่าล่าสุดช่วงเช้าวันที่ 27 ต.ค.มีกรรมการบริหารพรรค บางส่วน อาทิ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี นายรงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรีธรรมราช เดินทางไปยังมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อฯ เพื่อพบและร่วมรับประทานอาหารเช้า เมนูข้าวต้มหมูกับ พล.อ.ประวิตร

โดยช่วงหนึ่งมีการสอบถามความชัดเจนถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดย 1 ในแกนนำพรรคพูดกับ พล.อ.ประวิตร ถึงปัญหาที่เกิดจาก ร.อ.ธรรมนัส ว่ารัฐบาลและพรรคพลังประชารัฐจำเป็นต้องเป็นเนื้อเดียวกัน ถ้าเป็นร.อ.ธรรมนัส คงทำงานกันลำบาก เพราะนายกฯ ไม่เอาร.อ.ธรรมนัส จึงควรปรับโครงสร้างให้ทำงานได้

พล.อ.ประวิตร จึงกล่าวสวนไปว่า “พวกคุณไปฟังความข้างเดียวกัน ถ้าไม่เอาธรรมนัส แล้วจะเอาใคร เขาทำงานได้ ทำงานเพื่อพรรค แล้วใครจะทำงาน คนอื่นก็เป็นคู่กรณีของเขา ถ้ายังไม่เลิกทะเลาะกัน กูลาออก ใครอยากมาเป็นก็มาเป็นเลย”

แกนนำคนเดิมจึงระบุว่า แต่ถ้ายังเป็น ร.อ.ธรรมนัส ปัญหาจะไม่จบ เพราะนายกฯอาจไปตั้งพรรคใหม่ ทำให้พล.อ.ประวิตร ตอบอย่างมีอารมณ์ว่า “ถ้านายกฯตั้งพรรคใหม่ ผมก็เลิก ไม่เล่นแล้วการเมือง”

ตอนหนึ่งยังพูดถึงข้อสรุปในวงหารือเมื่อวันที่ 25 ต.ค. ระหว่างพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พล.อ.ประวิตร กับ 6 รัฐมนตรี เกี่ยวกับการปรับโครงสร้างพรรค โดยพล.อ.ประวิตรระบุว่า วันนั้นไม่ได้มีข้อสรุปอะไร ตนเองเพียงนั่งรับฟังเฉยๆ “ก็วันนั้นพวกมึงรุมกู”

ต่อมาช่วงบ่ายวันที่ 27 ต.ค.บรรดาแกนนำและส.ส.หลายคนทยอยเข้าพบ พล.อ.ประวิตร อาทิ ร.อ.ธรรมนัส นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง และ นายชัยวุฒิ

โดย พล.อ.ประวิตร เปิดโอกาสให้สมาชิกสะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้นว่า “ใครมีความในใจอะไรก็พูดออกมาเลย คุยกันตรงๆ” จึงมีส.ส.ภาคใต้บางคน กล่าวว่า จริงๆ แล้วพวกเราไม่มีอะไร เป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ทะเลาะกันเอง

ทำให้พล.อ.ประวิตร ตอบกลับไปว่า “ที่เป็นปัญหาอาจมีบางคนทะเลาะ และมีเด็กไปบอกนายกฯ จึงทำให้เป็นปัญหา เอาเป็นว่าต่อไปนี้ขอให้รักกัน พูดคุยกัน และให้จบตรงนี้ ไม่เป็นไร ถ้าที่ผ่านมีอะไรที่ผิดพลาด หรือผมอาจจะดูแลทุกคนไม่ดีพอ ก็ขอโทษ แต่ยืนยันว่าผมรักสมาชิกทุกคน”

จากนั้น ร.อ.ธรรมนัส ถือโอกาสอธิบายว่า “ผมไม่มีอะไร ที่ผ่านมาทำงาน ใจถึงพึ่งได้ พร้อมช่วยทุกคน แต่เรื่องที่เกิดขึ้นมีบางคนที่ไม่ชอบผม เอาไปพูดนอกพรรค ทำให้สับสน ขอให้มาพูดกัน” พร้อมกันนี้ ร.อ.ธรรมนัสยังเสนอให้ ส.ส.กลุ่มต่างๆ มานั่งฟัง เพื่อรับทราบไปพร้อมกัน จะได้ไม่ต้องไปประชุมกรรมการบริหารพรรคในวันที่ 28 ต.ค.อีก ให้มันจบกันวันนี้

ทั้งนี้ เมื่อร.อ.ธรรมนัสพูดเสร็จบรรยากาศได้ตรึงเครียดขึ้น เมื่อนายชัยวุฒิ พูดสวนไปว่า “ให้เอาความจริงมาพูดกัน เมื่อครั้งที่จะโหวตสวนผมและนายกฯคืออะไร” ร.อ.ธรรมนัส จึงตอบว่า “ที่ผ่านมาก็ขอโทษ ส่งข้อความและชี้แจงไปหมดแล้ว” ทำให้นายชัยวุฒิย้ำอีกครั้งว่า “ให้เอาความจริงมาพูดกันจะดีกว่า”

รายงานข่าวเผยว่า ในการหารือครั้งนี้ ได้มีการแจกกระดาษมีลักษณะแบบสอบถามประมาณ 7-8 ข้อ ใบละ 1 คำถามให้กับสมาชิกไปเขียนด้วยลายมือ โดยไม่ต้องระบุชื่อ เช่น สอบถามว่าต้องการให้ใครเป็นหัวหน้าพรรค ต้องการให้ใครเป็นเลขาธิการพรรค และอนาคตอยากให้พรรคเป็นอย่างไร รวมถึงให้แสดงความรู้สึกที่มีต่อรัฐมนตรีในสังกัดพรรค

จากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้อ่านผลการตอบแบบสอบถามด้วยตัวเอง โดยมีสีหน้ายิ้มแย้มตลอดเวลาเนื่องจากทั้งหมดพร้อมใจกันยืนยันให้พล.อ.ประวิตร เป็นหัวหน้าพรรคต่อไป ส่วนเลขาธิการพรรคประมาณ 80% ยังไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส รองลงมาคือ นายอนุชา นาคาศัย น้อยที่สุดคือชื่อของนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน

ขณะที่ความเห็นต่อรัฐมนตรีของพรรค ส่วนใหญ่เป็นไปในทิศทางเดียวคือ ไม่พอใจต่อการปฏิบัติตัวของรัฐมนตรี 2 กระทรวงคือ กระทรวงแรงงาน และกระทรวงดีอีเอส ทั้งนี้ ผลตอบแบบสอบถามดังกล่าว จะมีการนำไปรายงานให้ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรครับทราบ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน