ภูมิใจไทย แจงวุ่น สำลี ยันศาลรธน. สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ส.ส. ไม่เกี่ยวคลิปเสียง แต่เป็นคดีอาญาข้อหาบุกรุกปี 32-33 หลังเกิดข้อพิพาทกับสถานบันเทิงใกล้บ้าน

เมื่อวันที่ 3 พ.ย.2564 ที่รัฐสภา นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วยนายสำลี รักสุทธี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย แถลงกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นายสำลี หยุดปฏิบัติหน้าที่ กรณีมีผู้ร้องกล่าวหานายสำลี ขาดคุณสมบัติที่จะเป็นส.ส.

นายศุภชัย กล่าวว่า ประเด็นดังกล่าว มีการขยายความในลักษณะว่าเกิดจากข้อเท็จจริงเรื่องบันทึกคลิปเสียง ซึ่งไม่ใช่กรณีที่ศาลรับคำร้องไว้ แต่ข้อเท็จจริงคือนายสำลี เคยมีคดีอาญาช่วงปี 2532-2533 กรณีนายสำลี มีบ้านพักใกล้สถานบันเทิงใน จ.มหาสารคาม ซึ่งมีการแสดงดนตรีสดส่งเสียงดังรบกวน จนเกิดข้อพิพาทกัน

กระทั่งนายสำลี ได้เข้าไปที่สถานบันเทิงนั้น และถูกแจ้งความดำเนินคดีบุกรุกทำให้เสียทรัพย์ ท้ายที่สุดศาลได้พิพากษาลงโทษจำคุกนายสำลี 5 ปี แต่ให้รอลงอาญาไว้ 3 ปี โดยให้บำเพ็ญประโยชน์ตามเงื่อนไข ซึ่งนายสำลี ไม่ได้เข้าเรือนจำ แต่เป็นโทษรอลงอาญาไว้ เรื่องที่เกิดขึ้น จึงเป็นที่มาที่มีผู้ร้องว่า กรณีนี้ นายสำลีขาดคุณสมบัติหรือพ้นสภาพสมาชิกหรือไม่

เรื่องนี้เป็นช่วงก่อนที่นายสำลี จะมาเป็นส.ส.พรรคภูมิใจไทย และวันนี้ศาลรัฐธรรมนูญ ยังไม่ได้วินิจฉัยให้พ้นสมาชิกภาพ แต่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ เป็นเรื่องที่ถูกโทษทางอาญา ไม่ใช่เรื่องคลิปเสียงตามที่เป็นข่าว ซึ่งเรื่องคลิปเสียงไม่เคยเป็นคดีมาเลย หลังจากนี้นายสำลี จะต่อสู้คดีตามแนวทางต่อไป

ด้านนายสำลี กล่าวว่า ตรงพื้นที่บ้านของตนมีผับบาร์มาตั้ง ซึ่งมีการแสดงดนตรีสดเป็นเวลาหลายปี ตนได้รับความเดือดร้อนจากเสียงรบกวน และได้ร้องเรียน 3 ผู้ว่าฯ แต่ไม่มียุคสมัยใดแก้ปัญหาได้เลย ช่วงที่เกิดเหตุ ตนเป็นคนเขียนหนังสือจำหน่ายให้สำนักพิมพ์ ซึ่งสำนักพิมพ์ให้ส่งต้นฉบับให้เร็ว แต่เมื่อมีเสียงรบกวนจากสถานบันเทิง ทำให้ตนเขียนหนังสือไม่ได้ จนเกิดความเครียด สติหลุดเข้าไปบุกร้านยามวิกาล ทำให้ถูกกล่าวหาว่าตนเข้าไปขโมยของ

ขณะนั้น ทนายบอกให้ตนรับสารภาพ ก็จะไม่มีผลเรื่องการสมัครส.ส. ในที่สุดศาลตัดสินให้ลงโทษรอลงอาญา และศาลให้ตนบำเพ็ญประโยชน์ ซึ่งไม่เกี่ยวกับเรื่องคลิปเสียง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน