‘โฆษกรัฐบาล’ วอนอย่าบิดเบือนเจตนาดี ‘ประยุทธ์’ แนะปลูกผักชีในค่ายทหาร เผยอยากให้ทุกส่วนราชการใช้โอกาส-พื้นที่ แก้ปัญหาให้ประชาชน
วันที่ 5 พ.ย.64 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสโซเชียลที่นำคำปรารภของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในที่ประชุมครม. แนะแก้ปัญหาราคาผักชีแพง ให้ปลูกผักชี ในพื้นที่ทหารเพราะผักชีกำลังแพง ว่า เป็นการตัดตอนคำพูดโดยไม่คำนึงถึงเจตนารมณ์ของนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีเจตนาดีตั้งใจช่วยเหลือประชาชน สั่งการให้ทุกส่วนราชการ ใช้ทรัพยากรของตนเองที่มีอยู่ ช่วยเหลือพี่น้องประชาชน
ซึ่งปกติพี้นที่ทหารที่ว่าง ก็จะมีการนำมาใช้ประโยชน์อยู่แล้ว เช่น ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ เป็นต้น ที่ผ่านมาพื้นที่ในหน่วยทหาร ก็ถูกนำไปใช้ประโยชน์หลายครั้งในหลายโอกาส เช่น ตั้ง โรงพยาบาลสนาม ในค่ายทหาร ช่วงวิกฤตโควิด-19
ทั้งนี้ เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่เข้าใจดี ปัญหาที่ประชาชนเดือดร้อนนายกรัฐมนตรีพยายามแก้ไขให้ทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของพี่น้องประชาชน นายกฯใส่ใจทุกปัญหาของประชาชน และที่ผ่านมาทุกปัญหานายกฯจะสั่งการให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาโดยเร่งด่วนและให้ทำทันที
นายธนกร กล่าวว่า ขณะนี้หน่วยงานอื่นๆ ก็มีมาตรการคู่ขนานออกมาเพื่อช่วยแก้ปัญหาราคาสินค้าพีชผักแพง เช่น กระทรวงพาณิชย์ เปิดโครงการ Mobile พาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน โดยจัดรถเคลื่อนที่จำนวน 50 คัน เพื่อจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค และผัก ราคาถูก ทั่วกรุงเทพฯ-ปริมณฑล กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กำลังพิจารณาแนวทางแก้ปัญหาแม่ปุ๋ยราคาแพง เป็นต้น
ซึ่งที่ผ่านมา รัฐบาลยังได้มีมาตรการต่างๆ ในการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน กระตุ้นกำลังซื้อ ทั้งโครงการคนละครึ่ง โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการยิ่งใช้ ยิ่งได้ ด้วย
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีสมาชิกพรรคฝ่ายค้านแสดงความไม่พอใจที่รัฐมนตรีไม่ไปตอบกระทู้สดที่สภาวานนี้ (4 พ.ย.) โดยเฉพาะปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนนั้น ขอยืนยันว่า ครม.ไม่ได้ละเลยการชี้แจง เพียงแต่ประเด็นกระทู้สดที่ถามด้วยวาจา ไม่ใช่กระทู้ถามทั่วไป ทุกคนเพิ่งจะทราบตอนเช้า ซึ่งมีนัดหมายการประชุม ครม.ไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว เนื่องจากนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีบางท่านติดภารกิจเข้าร่วมประชุม COP26 ช่วงต้นสัปดาห์
รวมทั้ง ยังมีวาระ ครม. สำคัญต้องหารือในที่ประชุม ครม. เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน โดยนายกรัฐมนตรีกำชับด้วยว่าให้รัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการไปชี้แจงข้อมูลต่อสภา เพราะจะเป็นอีกหนทางหนึ่งที่ได้รับทราบปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนผ่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร์อีกทางหนึ่ง รวมทั้งจะได้ชี้แจงการทำงานของรัฐบาลด้วย