นิโรธ สุนทรเลขา ว่าที่ปธ.วิปรัฐบาล เผยสภาไม่ได้ล่ม แค่ประชุมนาน ก็ล้าเหนื่อยกันบ้าง ขอสังคมเข้าใจ เผยบิ๊กป้อมเรียกไปแจ้งข่าวแล้ว พร้อมทำงานร่วมกับทุกคน

วันที่ 5 พ.ย.2564 นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการทำหน้าที่หลังถูกเสนอชื่อเป็นประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาลคนใหม่ (วิปรัฐบาล) โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาองค์ประชุมสภาล่ม ว่า เมื่อวานนี้ ยืนยันว่าการประชุมสภา องค์ประชุมไม่ได้ล่ม

ทั้งนี้ ต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้แทนทุกคนที่ร่วมกันทำงานผลักดันกฎหมายตั้งแต่ช่วงเช้า มีกฎหมายต้องดำเนินการตามระเบียบวาระจำนวน 3 ฉบับ แต่ละฉบับมีรายละเอียดหลายมาตรา เราต้องพิจารณาทุกมาตราตั้งแต่ฉบับที่ 1 จนถึงฉบับที่ 3 ในช่วงเวลา 17.00 น.

โดยตั้งแต่ 2 ฉบับแรกผู้แทนทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลแทบไม่ได้ขยับ เพราะมีจิตสำนึกต้องผลักดันกฎหมายเพื่อบ้านเมือง ทำให้เกิดความล้า ใช้เวลาประชุมกว่า 8 ชั่วโมง ก็ต้องอ่อนล้ากันบ้าง

ความจริงเมื่อเข้าสู่การพิจารณากฎหมายฉบับที่ 3 ตามกำหนดการจะปิดประชุมในช่วงเวลา 18.00 น. จึงได้ประสานกับประธานที่ประชุมในขณะนั้นคือนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯคนที่ 1 ว่าเริ่มการพิจารณากฎหมายฉบับที่ 3 สักนิด หากผู้แทนไม่ไหวก็จะขออนุญาตปิดประชุม เรื่องก็เป็นแบบนี้

แต่ระหว่างการพิจารณาถึงมาตรา 5 ของกฎหมายฉบับที่ 3 มีส.ส.สงวนความเห็นและอภิปรายกัน ตอนนั้นเวลาประมาณ 17.00 น. ผู้แทนไม่ไหวแล้ว เขาก็เริ่มลงไปรับประทานอาหารกัน เมื่ออภิปรายเสร็จแล้ว ประธานก็สั่งปิดการประชุม เพราะดูแล้วผู้แทนเหนื่อย ต้องเห็นใจผู้แทน เราไม่ได้ขี้เกียจสันหลังยาว เพราะร่างกายแต่ละคนแข็งแรงไม่เหมือนกัน

“การทำงานแบบนี้ผมคิดว่าบางทีเกินอายุขัย ต้องเห็นใจและขอให้ประชาชนเข้าใจ ทุกคนเหน็ดเหนื่อย บางทีก็ตาลาย”

เมื่อถามว่าการควบคุมองค์ประชุมในสภาถือเป็นหน้าที่ของวิปรัฐบาล จะเข้าไปดำเนินการอย่างไร โดยเฉพาะในช่วงอายุสภาใกล้จะครบวาระ รวมถึงกรณีรัฐมนตรีไม่ยอมมาชี้แจงกระทู้ในสภา ทำให้งานไม่เดินหน้า นายนิโรธ กล่าวว่า กรณีรัฐมนตรีไม่ได้มาตอบกระทู้ถามสดทางสภานั้น ตนเข้าใจทุกฝ่าย แต่เรื่องนี้เป็นความผิดพลาดทางเทคนิค เพราะนายกรัฐมนตรีไปต่างประเทศ ทำให้การคณะรัฐมนตรีเลื่อนมาประชุมเมื่อวานนี้ ตรงกับวันตั้งกระทู้ถามพอดี

ตนก็เข้าใจว่าส.ส.ต้องการนำความเดือดร้อนของประชาชนมาพูดในสภาให้รัฐบาลและรัฐมนตรีรับทราบ แต่ก็ขัดข้องผิดพลาดทางเทคนิค น่าจะให้อภัยกัน อย่าไปถือเป็นสาระว่ารัฐมนตรีไม่มาตอบ ต้องเห็นใจกันและกัน

สำหรับการทำงานของวิปนั้น แต่ละพรรคจะมีทีมวิปที่มีประสบการณ์การทำงาน ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิต่างๆ ไม่ว่าด้านการเมือง ด้านกฎหมาย ด้านสภาจึงไม่น่ากังวล โดยเฉพาะในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ

ขณะที่ในส่วนของพรรคเพื่อไทยที่ได้ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน มาเป็นหัวหน้าพรรค ถือว่าสุดยอดเพราะมีวิสัยทัศน์ โดยเฉพาะตอนอภิปรายที่ตนชื่นชม รวมถึงนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน

เมื่อถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างประธานวิปฝ่ายค้านที่ต้องทำงานร่วมกันพิจารณาวาระสำคัญต่างๆ นายนิโรธ กล่าวว่า เป็นเรื่องของหน้าที่ส.ส.ทุกคนต้องทำกัน ไม่ว่าพรรครัฐบาลหรือพรรคฝ่ายค้าน เพราะทุกคนเป็นผู้แทน พวกเราคุยกันได้ ร่วมมือทำงานให้ประเทศ ตนคงไม่ต้องทำอะไร เพราะทุกคนทราบหน้าที่ตนเอง

โดยเมื่อวานนี้เสร็จจากการประชุมสภา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก็ให้ตนเข้าพบ ท่านบอกว่าได้ทำเอกสารเสนอชื่อตนเป็นประธานวิปรัฐบาลให้รัฐบาลพิจารณาแล้ว

ขณะนี้ตนยังไม่ได้รับคำสั่งแต่งตั้งเป็นลายลักษณ์อักษรกลับมา จึงยังไม่ได้คุยอะไรกับหัวหน้าพรรค เพียงแต่ท่านมอบหมายงานและบอกว่าให้ทำหน้าที่ให้ดี ขอให้ช่วยกันทำ คุยกับทุกฝ่ายร่วมกันทำงานในภารกิจหน้าที่ของสภา

การเสนอชื่อเป็นประธานวิป เป็นเรื่องของพรรคพลังประชารัฐที่ต้องส่งชื่อ เนื่องจากเป็นแกนนำรัฐบาล โดยผู้ใหญ่คุยกัน ตนไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย เห็นชื่อตัวเองก็ยังรู้สึกงงๆ และพรรคก็สรุปชื่อส่งรัฐบาล ตนกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ยังไม่เคยคุยกันเลย เพราะมีสื่อบางฉบับบอกว่านายกฯอบอุ่นใจ ตนไม่รู้เรื่อง

“ผมเป็นฝ่ายการเมืองและด้วยเกียรติ ยังไม่เคยคุยกับนายกสักคำเลย ยังไม่เคยคุยตั้งแต่ท่านเป็นนายกฯ และเราเป็นส.ส. เป็นประชาชน ก็ต้องให้ความเคารพนายกในฐานะผู้นำประเทศ รวมถึงผู้นำฝ่ายค้าน ผมก็ให้ความเคารพเช่นกัน ถือเป็นวัฒนธรรมที่ดี”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน