“คำนูณ” สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เผยหลัง ศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ เอาผิดนักการเมือง ร่วมม็อบ “ปฏิรูปสถาบัน” ไม่ได้ แนะดูพยาน – หลักฐาน และแยกเป็นรายกรณีไป

เมื่อวันที่ 11 พ.ย.64 นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กล่าวกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยข้อเสนอการปฏิรูปสถาบัน 10 ข้อของแกนนำคณะราษฎร เข้าข่ายการกระทำล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และสั่งให้เลิกการกระทำรวมถึงการกระทำของเครือข่าย ว่า

คำวินิจฉัยดังกล่าวถือเป็นที่สุด และมีผลผูกพันทุกองค์กรให้ปฏิบัติตาม ส่วนคำวินิจฉัยที่ให้ยุติการกระทำ ไม่ใช่เฉพาะผู้ถูกร้องทั้ง 3 คนเท่านั้น ยังรวมถึงองค์กรเครือข่ายด้วย และไม่ใช่ให้ยุติการกระทำเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2563 เท่านั้น แต่รวมถึงเหตุการณ์ต่อเนื่องและสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต

เมื่อถามว่าคำวินิจฉัยศาลมีผู้มองว่าขัดขวางเสรีภาพประชาชน นายคำนูณ กล่าวว่า การใช้สิทธิเสรีภาพตามมาตรา 49 ของรัฐธรรมนูญ ต้องไม่เป็นสิทธิเสรีภาพที่มีผลล้มล้างการปกครองในระะบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และใครที่พบเห็นสามารถยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาตามกระบวนการ และศาลมีอำนาจให้ยุติการกระทำได้

“เมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการกระทำตามที่ร้องมานั้น เป็นสิทธิเสรีภาพล้มล้างการปกครอง จึงถือว่าเข้าข่ายมาตรา 49 หากจะใช้สิทธิเสรีภาพเรื่องอื่นสามารถใช้ได้ แต่การใช้เสรีภาพที่ล้มล้างการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทำไม่ได้” นายคำนูณ กล่าว

เมื่อถามว่ากรณีการเสนอเสนอแก้กฎหมายอาญา มาตรา 112 ถือว่าเข้าข่ายคำวินิจฉัยดังกล่าวด้วยหรือไม่ นายคำนูณ กล่าวว่า ต้องดูการกระทำเป็นเฉพาะกรณีไป ไม่อาจแปลความเกินได้ และไม่ควรตีความเกินคำวินิจฉัย ต้องอยู่ในกรอบการปฏิรูปสถาบัน 10 ข้อที่คณะราษฎรประกาศไว้ และการกระทำที่เกี่ยวเนื่องเป็นกรณีๆ ไป

ทั้งนี้ ตนยังไม่เห็นคำวินิจฉัยฉบับเต็ม จึงขอไม่แสดงความเห็น เมื่อถามถึงกรณีมีนักการเมืองเข้าร่วมการชุมนุมดังกล่าว มีสิทธิถูกฟ้องร้องดำเนินคดีได้หรือไม่ นายคำนูณ กล่าวาว่า แล้วแต่พยานหลักฐาน และต้องดูเป็นรายกรณี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน