“บิ๊กป้อม” สั่ง ส.ส.พปชร. ฟรีโหวตร่างแก้รัฐธรรมนูญ ฉบับประชาชน ด้าน วิปรัฐบาลลงมติคว่ำ “นิโรธ” ไม่กังวล ว่าจะเพิ่มอุณหภูมิทางการเมือง
เมื่อเวลา 09.55 น. วันที่ 17 พ.ย. ที่รัฐสภา มีการประชุม ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ในช่วงเช้าก่อนการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับภาคประชาชน โดยมีนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.สบัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชารัฐ และนายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล เป็นประธานในการประชุม
โดยนายนิโรธ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ว่า เมื่อวานนี้ (16 พ.ย.) เราได้ฟังการเสนอกฎหมายของภาคประชาชน โดยในช่วงหัวค่ำแกนนำวิปรัฐบาลได้ปรึกษาหารือกัน และพบข้อดีข้อเสียของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ซึ่งหลายมาตราเป็นการนำเสนอที่ดี แต่หลายมาตราแหลมคม มีการยกเลิกมาตราอื่นๆ หลายมาตราซึ่งจะไปกระทบชิ่งหลายๆ มาตรา และจะทำให้มีปัญหาในชั้นรับหลักการว่า หากรับหลักการไปแล้วจะไปแก้ในชั้นกรรมาธิการ (กมธ.) ก็คงแก้ได้ยาก
เช่น บัตรเลือกตั้ง ร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนเสนอบัตรใบเดียว ซึ่งเมื่อรับหลักการแล้วจะไปแก้เป็นบัตรสองใบไม่ได้ เพราะขัดกับหลักการ ฉะนั้น วิปรัฐบาลจึงมีแนวคิดว่าถ้าภาคประชาชนเสนอรัฐธรรมนูญมัดรวมกันมาแบบนี้ ทำให้ยากต่อการพิจารณาที่จะรับกฎหมายฉบับนี้ได้ ถ้าแยกร่างมาแล้วร่างไหนดีก็ยังมีโอกาสที่จะรับได้ แกนนำวิปรัฐบาลจึงมีความเห็นว่าไม่น่าจะรับหลักการ
ดังนั้น ตนจึงนำความเห็นของวิปรัฐบาลมาสู่การประชุมพรรคพลังประชารัฐในวันนี้ และให้ทุกคนได้แสดงความคิดเห็น เพราะเมื่อวานนี้สมาชิกรัฐสภาโดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาลได้อยู่กันจนดึกเพื่อเป็นองค์ประชุมให้ภาคประชาชนที่เสนอกฎหมาย เพื่อไม่ให้องค์ประชุมเกิดปัญหาขึ้นมา ก็ต้องขอชื่นชมสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลที่อดทนและรับฟัง
“ส่วนในห้องประชุมของพลังประชารัฐก็ได้พูดกันหลายประเด็น แต่ทาง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ให้ความเห็นมาว่า ให้อิสระกับ ส.ส.ทุกคน และให้ฟังแนวคิดของวิปรัฐบาลว่านำเสนออย่างไร และให้คุยกัน ให้ทุกคนตัดสินใจกัน” นายนิโรธ กล่าว
เมื่อถามว่า จะลงมติงดออกเสียงหรือไม่ นายนิโรธ กล่าวว่า แล้วแต่สมาชิกพรรค แต่เรานำข้อคิดเห็นและข้อสรุปของพรรคร่วมรัฐบาลมานำเสนอให้ที่ประชุมได้รับฟัง และก็ให้ทุกคนตัดสินใจกัน เพราะพล.อ.ประวิตร ให้อิสระเป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส.
เมื่อถามว่า หากร่างฉบับนี้ไม่ผ่านจะเพิ่มอุณหภูมิทางการเมืองนอกสภาฯ หรือไม่ นายนิโรธ กล่าวว่า ตนว่าไม่ เพราะเป็นการเสนอกฎหมายปกติ ถ้าไม่ผ่าน ซึ่งวิปรัฐบาลเห็นว่าหลายมาตราดี แต่หลายมาตราแหลมคมเกินไปก็จะไปกระทบชิ่งหลายๆ เรื่อง ดังนั้น ถ้าประชาชนจะเสนอกฎหมาย อยากได้ประเด็นไหนก็แยกร่างออกมา ตนคิดว่าน่าจะทำให้สมาชิกรัฐสภามีโอกาสพิจารณาและตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
เมื่อถามว่า แสดงว่าหลังจากนี้หากภาคประชาชนไปล่ารายชื่อมาแก้ประเด็นใดประเด็นหนึ่งเพื่อให้ผ่านสภาฯ ก็มีโอกาสเป็นไปได้ใช่หรือไม่ นายนิโรธ กล่าวว่า ถ้ามีโอกาสก็นำเสนอเข้ามา แต่สมัยประชุมนี้ไม่ได้แล้ว ต้องเป็นสมัยประชุมหน้า
