เพื่อไทยติง ดอน เยือนเมียนมา เย้ยประชาคมโลก ตอกย้ำรัฐบาลประยุทธ์ ปากว่าตาขยิบ ถามกลับหิ้ววัคซีนโควิดไปบริจาคเชื่อมสายใยเผด็จการหรือไม่
เมื่อวันที่ 19 พ.ย.2564 น.ส.ชญาภา สินธุไพร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกฯและรมว.การต่างประเทศ เดินทางไปเยือนสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เมื่อวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า เป็นการแสดงท่าทีของประเทศไทยที่สวนทางกับประชาคมโลก ซึ่งร่วมกันประณามและแสดงความกังวลต่อสถานการณ์ปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนของเมียนมาหลังทำรัฐประหาร
ทั้งยังตอกย้ำว่ารัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม มีพฤติกรรมปากว่าตาขยิบ กล้าไปประกาศในเวทีโลกว่าจะส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนต่อสหประชาชาติ แต่ความจริงที่เกิดขึ้นในประเทศ คือประชาชนถูกไล่ล่า ปราบปรามจับกุมผู้ชุมนุม จนมีนักโทษทางความคิดจำนวนมากถูกจองจำไร้อิสรภาพ ไม่ได้รับสิทธิประกันตัว พล.อ.ประยุทธ์ จึงเป็นได้แค่ผู้นำรัฐบาลเผด็จการสืบทอดอำนาจที่ไร้จุดยืนด้านประชาธิปไตย
อย่างไรก็ตาม พรรคยังคงเดินหน้าเพื่อเรียกร้องสิทธิเสรีภาพของประชาชน โดยใช้กระบวนการทางสภาทุกวิถีทางในการช่วยเหลือนักโทษทางความคิด เพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานที่ประชาชนพึงมีต่อไป
น.ส.ชญาภา กล่าวอีกว่า การเยือนเมียนมาครั้งนี้ รัฐบาลไทยยังหอบหิ้วเอาสิ่งของไปบริจาคเชื่อมสายใยเผด็จการถึง 17 ตัน อยากทราบว่าสิ่งของเหล่านั้นมีวัคซีนป้องกันโควิด-19 หรือไม่ หากเป็นวัคซีน คงต้องตั้งคำถามว่าเหมาะสมหรือไม่ เพราะยังมีคนไทยอีกหลายล้านคนยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มแรก
