เมื่อเวลา 15.00 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช.ลงนามคำสั่งหัวหน้าคสช.เพื่อผ่อนคลายกรอบเวลาในพรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ว่า คาดว่าคำสั่งดังกล่าวจะประกาศได้ในวันที่ 22 ธ.ค.นี้ หรืออย่างช้าไม่เกินวันที่ 23 ธ.ค.นี้ สาระสำคัญของคำสั่งดังกล่าวจะระบุถึงการผ่อนคลายให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมได้ใน 4 ระดับ คือ 1.เริ่มตั้งแต่ออกคำสั่งคสช.ถึงวันที่ 1 มี.ค. 2561 2.ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.- 1 เม.ย. 2561 เพื่อให้เวลาพรรคที่จะตั้งใหม่ 1 เดือน ในการจองชื่อพรรครวมทั้งหาสมาชิกพรรค 500 คน และเตรียมยื่นจะทะเบียนพรรคโดยนายทะเบียนพรรคการเมืองจะใช้เวลา 30-45 วัน พิจารณาว่าจะให้จัดตั้งพรรคได้หรือไม่ 3.ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2561 เป็นต้นไป พรรคเก่าจะคลายล็อกเพื่อให้ดำเนินการทางธุรการตามที่พรป.พรรคการเมืองกำหนดไว้ แต่ยังไม่ให้จัดประชุมใหญ่พรรค เนื่องจากจะไปเกี่ยวกับการปลดล็อกทั้งหมด โดยให้รอดูในคำสั่งข้อสุดท้ายที่จะออกมาก็จะรู้ว่าเป็นเมื่อใดแต่ยังบอกไม่ได้เพราะเกี่ยวกับเงื่อนเวลาบางอย่าง โดยจะเริ่มผ่อนคลายก่อนนำไปสู่การปลดล็อกทั้งหมด และ4.ปลดล็อกด้วยการยกเลิกคำสั่งและประกาศคสช.ฉบับที่เป็นอุปสรรคต่อการเลือกตั้งโดยเสรี
นายวิษณุ กล่าวว่า สำหรับกรรมการบริหารพรรคของพรรคเก่ายังอยู่เหมือนเดิม หากพรรคใดจำเป็นต้องเรียกประชุมใหญ่เพื่อเลือกกรรมการบริหารชุดใหม่สามารถยื่นเรื่องมาที่คสช.เพื่อให้พิจารณาว่าจะอนุญาตให้จัดประชุมหรือไม่ แต่หากพรรคใดไม่จำเป็นก็ให้ประชุมหลังจากปลดล็อกพรรคการเมืองแล้ว หากไม่ทำอย่างนี้แล้วปล่อยให้พรรคเก่าและพรรคใหม่ทำตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2561 พร้อมกัน พรรคเก่าเดินหน้าโดยมีชื่อพรรคและสมาชิกแล้ว แต่พรรคใหม่ยังไม่มีอะไรแต่กลับไปใช้ชื่อพรรคใหม่โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตก็จะถูกจำคุกได้ ยืนยันว่าคำสั่งคสช.ที่ออกมาไม่สร้างปัญหาต่อการจัดการเลือกตั้งตามโรดแม็ปเพราะได้พิจารณาอย่างดีแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่ายืนยันจะเลือกตั้งในวันที่ 2 พ.ย. 2561 ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ตอบอย่างนั้น เอาเป็นว่ายังอยู่ในโรดแม็ปที่พูดกันไว้ เว้นแต่จะมีตัวแปรอย่างอื่นซึ่งเรายังไม่รู้จริงๆ และอย่าเพิ่งไปพูดว่ามีอะไร ต่อข้อถามว่าสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)จะเปิดรับฟังความเห็นเกี่ยวกับการแก้ไขพรป.พรรคการเมือง รองนายกฯ กล่าวว่า เดิมสนช.ไม่รู้ว่าคสช.จะใช้อำนาจตามมาตรา44 จึงไปเตรียมการที่จะแก้ไข แต่ตอนนี้ใช้แล้วสนช.คงไม่ต้องไปเปิดรับฟังอีก เว้นแต่จะแก้ไขประเด็นอื่นในพรป.พรรคการเมือง ก็แล้วแต่เขาซึ่งสามารถทำได้แต่ไม่รู้ว่าจะแก้มาตราใดเพราะไม่ได้ไปสมคบคิดด้วย ทั้งนี้ยอมรับว่าการใช้คำสั่งมาตรา 44 จะเอื้อกับกฎหมายลูกที่อยู่ในการพิจารณาของสนช.
เมื่อถามว่ารัฐบาลและคสช.ประเมินหรือไม่ว่าอาจมีการเคลื่อนไหวหลังจากที่ผ่อนคลายพรป.พรรคการเมือง นายวิษณุ กล่าวว่า เพราะประเมินแล้วจึงเลือกใช้วิธีการอย่างนี้ เพราะดูแล้วว่าจะไม่มีใครเดือดร้อน ได้เปรียบเสียเปรียบและประชาชนได้ประโยชน์ ซึ่งทุกคนพยายามทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุด จึงขอให้พรรคการเมืองร่วมมือด้วยก็เชื่อว่าจะไม่เกิดปัญหา
