รองโฆษกรัฐบาล เผย โรดแม็ป แก้หนี้ข้าราชการ นำร่องครู-ตำรวจ วางเป้าปี 65 คลี่คลายหนี้ครัวเรือน ระบุ เร่งรัดออกกฎกระทรวงกำกับดูแลสหกรณ์

วันที่ 29 ธ.ค.2564 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าแก้ปัญหาหนี้สินภาคประชาชน ตามข้อสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้เร่งดำเนินการโดย นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อย รายงานว่า นับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ที่มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการให้ดำเนินการครอบคลุม 8 ประเด็น คือ

1.แก้ปัญหาหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา 2.กำหนดให้การไกล่เกลี่ยและการปรับโครงสร้างหนี้เป็นวาระของประเทศ ผ่านกลไกธนาคารแห่งประเทศไทย และสถาบันการเงินของรัฐ 3.การแก้ปัญหาหนี้เช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ 4.แก้ปัญหาหนี้สินข้าราชการโดยเฉพาะข้าราชการครูและข้าราชการตำรวจ

5.ปรับลดและทบทวนโครงสร้างและเพดานอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม และการออกมาตรการคุ้มครองสิทธิ์ของลูกหนี้ 6.การแก้ปัญหาหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล 7.แก้ปัญหาการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของประชาชนรายย่อยและ SMEs และ 8.ปรับปรุงขั้นตอนในกระบวนการยุติธรรม ทั้งหมดนี้ อยู่ระหว่างการดำเนินการเพิ่มเติม เพื่อในปี 2565 จะสามารถขยายผลแก้ปัญหาหนี้สินและคลี่คลายภาระหนี้ครัวเรือนได้มากขึ้น

น.ส.รัชดา กล่าวต่อว่า การแก้ปัญหาหนี้สินข้าราชการ ขับเคลื่อนแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ บุคลากรครู และเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยกระทรวงศึกษาธิการ จัดตั้งคณะกรรมการแก้ไขหนี้สินบุคลากรครู มีแนวทางแก้ไขปัญหา ได้แก่ ยุบยอดหนี้ โดยใช้ทรัพย์สินและรายได้ในอนาคตของครู เพื่อให้ยอดหนี้ลดลง และสามารถชำระคืนได้จากเงินเดือน เช่น

ใช้เงินบำเหน็จตกทอดมาชำระหนี้บางส่วน และปรับดอกเบี้ยเงินกู้ให้ลดลงเหลือไม่เกินร้อยละ 5 เพื่อให้สอดคล้องกับสินเชื่อ หักเงินเดือนข้าราชการที่มีความเสี่ยงต่ำ รวมถึงปรับลดค่าธรรมเนียมทำประกันชีวิตและการค้ำประกันโดยบุคคลที่ไม่จำเป็น และยกระดับระบบการตัดเงินเดือนข้าราชการให้มีประสิทธิภาพและเป็นธรรมมากขึ้น ขณะนี้มีสหกรณ์ครูจำนวน 20 แห่ง ครอบคลุมครูทั่วประเทศ กว่า 2 แสนคน สมัครเข้าร่วมดำเนินการตามแนวทางที่กระทรวงฯกำหนด และคาดว่าจะมีเพิ่มในระยะต่อไป

น.ส.รัชดา กล่าวอีกว่า ขณะที่การแก้ปัญหาหนี้ตำรวจ จากข้อมูลเดือนก.ย.ที่ผ่านมา มีผู้เข้าร่วมโครงการ 4.9 พันราย ได้รับการแก้ปัญหาหนี้แล้ว 2.1 พันราย อยู่ระหว่างดำเนินการ 2.5 พันราย และทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ขอความร่วมมือสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจเพื่อช่วยเหลือข้าราชการที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ในช่วงสถานการณ์โควิด 19 ในการพักชำระหนี้ เงินต้น การจัดทำโครงการปล่อยเงินกู้ ระยะสั้นดอกเบี้ยต่ำเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายให้กับสมาชิกในครอบครัวและการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ให้กับสมาชิกที่มีหนี้

น.ส.รัชดา กล่าวด้วยว่า ประเด็นที่ต้องดำเนินการต่อไปเพื่อการแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการให้ลุล่วง โดยเร่งปรับปรุงและยกระดับระบบการตัดเงินเดือนเพื่อชำระหนี้ อาทิ สหกรณ์ต้องกำหนดยอดเงินที่ข้าราชการสามารถกู้ได้โดยไม่เกินศักยภาพในการชำระคืนจากเงินเดือน กำหนดกติกาว่าหลังหักชำระหนี้ ข้าราชการต้องเหลือเงินเดือนไม่ต่ำกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ และร่วมกันกำกับดูแลให้สหกรณ์ออมทรัพย์และสถาบันการเงินให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบ

นอกจากนี้ เร่งรัดการออกกฎกระทรวงเพื่อกำกับดูแลสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนให้ครบถ้วนตามกฎหมาย โดยครอบคลุมมิติ ด้วยการปรับลดเพดานอัตราดอกเบี้ยเงินฝากของสหกรณ์ให้ไม่เกิน 3 เปอร์เซ็น์ ศึกษาและแก้ไขกฎเกณฑ์ให้สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์สามารถนำหุ้นบางส่วนมาใช้ชำระหนี้ได้โดยไม่ต้องลาออกจากการเป็นสมาชิก รวมทั้งศึกษาข้อกฎหมายเกี่ยวกับการปรับลดยอดหนี้ โดยการนำรายได้ในอนาคตบางส่วนมาใช้ลดยอดหนี้

และยกระดับการกำกับดูแลชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ ให้มีผู้แทนจากกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นกรรมการหรือที่ปรึกษา คณะกรรมการที่ปรึกษาการกำกับดูแลสหกรณ์ออมทรัพย์ และสหกรณ์เครดิตยูเนียน เพื่อให้คำแนะนำ เสนอมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหา และจะต้องรายงานให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทราบ เพื่อความโปร่งใสตรวจสอบได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน