มายด์-โตโต้ ยื่นหนังสือต่ออัยการสูงสุด เรียกร้องไม่อุทธรณ์คดีที่ศาลเเขวงดุสิตยกฟ้อง คดีพาม็อบจี้นายกฯลาออก เมื่อเดือนต.ค.63
วันที่ 10 ม.ค.2565 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือมายด์ และ นายปิยรัฐ จงเทพ หรือโต้โต้ เข้ายื่นหนังสือต่ออัยการสูงสุด เพื่อขอให้ยุติไม่อุทธรณ์คดี หลังศาลแขวงดุสิต พิพากษายกฟ้อง คดีตนและ ประชาชนตกเป็นจำเลย ในคดีฝ่าฝืนคำสั่งประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 ประกอบมาตรา 11 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 รวมทั้งประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ลงวันที่ 15 ต.ค. 63 เรื่องห้ามมิให้มีการชุมนุมหรือมั่วสุมข้อ 1 (ฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินร้ายแรง)
เนื่องจากเข้าร่วมการชุมนุมเมื่อวันที่ 21 ต.ค.63 ที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อเคลื่อนขบวนไปยื่นหนังสือลาออกให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล ต่อมาศาลเเขวงดุสิตมีคำพิพากษายกฟ้อง โดยมีตัวแทนของสำนักงานอัยการสูงสุด มารับหนังสือ
น.ส.ภัสราวลี กล่าวว่า การรับหนังสือในวันนี้จะมีการส่งต่อให้อธิบดีอัยการศาลสูงเป็นคนพิจารณาต่อไป ทางเรายืนยันหนักแน่นให้อัยการคืนความเป็นธรรมให้กับประชาชน คือการยุติคดีนี้โดยการไม่ยื่นอุทธรณ์ ถ้าคดีนี้ยังดำเนินต่อไป จะเป็นการตอกย้ำความอยุติธรรมในสังคม ซึ่งประชาชนมีสิทธิเสรีภาพในการออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย เรียกร้องสิ่งที่จะดีกว่านี้ในสังคมไทย ฉะนั้น กระบวนการยุติธรรมก็ไม่ควรพรากความยุติธรรมไปกับประชาชน จึงอยากให้อัยการเป็นหน่วยงานที่คืนความเป็นธรรมให้กับประชาชน
“หลังจากนี้ หวังว่าอัยการจะรับพิจารณาตามข้อเรียกร้องนี้ และจะคำนึงถึงความเป็นธรรมที่เกิดขึ้น รวมถึงคดีอื่นๆ ด้วยที่เป็นการชุมนุมใช้สิทธิเสรีภาพทางการเมืองตามระบอบประชาธิปไตย เพราะถ้าเราพูดว่าประเทศเป็นประชาธิปไตย ประชาชนจะต้องออกมาพูดได้และออกมาแสดงความคิดเห็นได้ ไม่ควรถูกสกัดกั้นด้วยการถูกดำเนินคดี อัยการจึงเป็นส่วนสำคัญที่จะยุติวงจรนี้ และให้กระบวนการยุติธรรมอยู่กับประชาชนเป็นหลัก” น.ส.ภัสราวลี กล่าว
