ก้าวไกลซัด ปชป.-พปชร.หาเสียงในวัด ไม่เกรงใจสังฆราช ทั้งที่ วิษณุ ยันเองมีคำสั่ง มส.ห้ามไว้ตั้งแต่ปี 61 บี้ กกต.อย่าเลือกปฏิบัติฝ่ายค้าน-รัฐบาล

เมื่อวันที่ 10 ม.ค.2565 ที่จ.สงขลา น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ขณะนี้การหาเสียงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 6 สงขลา เดินทางมาถึงโค้งสุดท้ายแล้ว ก่อนการลงคะแนนวันที่ 16 ม.ค. มั่นใจว่านายธิวัชร ดำแก้ว ผู้สมัครส.ส.เขต 6 สงขลา ของพรรคก้าวไกล จะได้รับความเชื่อใจจากประชาชนชาวสงขลาเพื่อสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ เลือกให้เป็น ส.ส.เขต จากพรรคก้าวไกล คนแรกของภาคใต้

น.ส.เบญจา กล่าวต่อว่า แม้โค้งสุดท้ายจะแข่งขันกันดุเดือดเข้มข้น แต่ตนอยากเห็นการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม เป็นธรรมกับทุกฝ่ายภายใต้กติกาเดียวกัน ที่ผ่านมาในการเลือกตั้งปี 2562 ทุกพรรครับรู้แนวปฏิบัติเดียวกันว่า ไม่สามารถเข้าไปหาเสียงหรือจัดกิจกรรมทางการเมืองในวัดได้ ไม่ว่าจะปราศรัยหรืออื่นๆ ยกเว้นไปไหว้พระขอพร เนื่องจากก่อนหน้านั้นสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (อัมพร อัมพโร) ทรงลงพระนามในประกาศมหาเถรสมาคม(มส.) เรื่องห้ามใช้วัดเป็นสถานที่ชุมนุม สัมมนา หรือจัดกิจกรรมทางการเมือง ตั้งแต่วันที่ 30 ส.ค.2561 เป็นต้นมา

โดยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เคยกล่าวยืนยันถึงประกาศ มส.ดังกล่าว ว่าเป็นประกาศย้ำเพื่อแจ้งแก่วัดต่างๆ ให้มีแนวปฏิบัติเดียวกัน เนื่องจากประกาศ มส. เรื่องห้ามหาเสียงในวัดมีมานานแล้ว แต่การเลือกตั้งซ่อมเขต 6 ครั้งนี้ บางพรรคไม่ได้ยึดเอาแนวปฏิบัติดังกล่าวเป็นที่ตั้ง

โดยเช้าวันนี้ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เพิ่งตั้งเวทีปราศรัยในวัดวังปริง อ.สะเดา ทั้งยังเตรียมจัดเวทีปราศรัยที่วัดเทพชุมนุม ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ ด้วย ซึ่งเป็นวัดเดียวกับที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะใช้จัดเวทีปราศรัยใหญ่ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรค ช่วงค่ำนี้ จึงขอสอบถาม กกต.ในฐานะผู้กำกับดูแลการเลือกตั้งว่า เรื่องนี้มีแนวปฏิบัติอย่างไรกันแน่ หากเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายจะมีมาตรการอย่างไรกับกรณีที่เกิดขึ้น

น.ส.เบญจา กล่าวย้ำว่า เราไม่เคยมีปัญหากับการไปหาเสียงในวัด และยินดีสนับสนุนให้วัดเป็นพื้นที่ของทุกคน และทำให้ภิกษุสงฆ์เป็นอีกพลังของการส่งเสริมประชาธิปไตย ถ้าเรื่องนี้ทำได้ เราคงไปตั้งเวทีปราศรัยตั้งแต่อดีตที่ยังเป็นพรรคอนาคตใหม่แน่นอน เพียงแต่หลายครั้งเมื่อฝ่ายประชาธิปไตยเข้าไปทำกิจกรรม ก็เป็นรัฐบาลเองที่กีดกัน มักอ้างคำสั่งนี้มาใช้ พอตัวเองจะหาประโยชน์จากวัด กลับไม่เกรงใจคำสั่งสมเด็จพระสังฆราชฯ ทำเหมือนมองไม่เห็น ทั้งที่เนติบริกรของท่านรู้กฎหมายดีที่สุด

ขอฝากอีกครั้งไปยัง กกต.ว่าเมื่อมีหน้าที่กำกับการเลือกตั้ง ต้องใช้แนวปฏิบัติด้วยความสม่ำเสมอ ไม่ใช่เลือกตั้งครั้งก่อนแบบหนึ่ง ครั้งนี้อีกแบบหนึ่ง เคร่งครัดกับฝ่ายค้าน แต่กับฝ่ายรัฐบาลพร้อมตีความยืดหยุ่นให้เสมอ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน