‘ประยุทธ์’ ห่วงของแพง โวสั่ง ‘พาณิชย์’ ตรึงราคา ‘มาม่า’ ชี้ราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้น เป็นผลมาจากกลไกราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง
วันที่ 13 ม.ค.64 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ห่วงกังวลสถานการณ์การปรับราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ขณะนี้ โดยเฉพาะในหมวดอาหารสดหลายประเภทที่มีการทยอยปรับราคาสูงขึ้น จึงเร่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพลังงาน ติดตามและหารือกับผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น เพื่อตรึงราคาสินค้าในการช่วยลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน
นายธนกร กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ ได้หารือกับบริษัท ไทยเพรสซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน)ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป “มาม่า”ไม่ให้มีการปรับขึ้นราคามาม่าซองประเภทที่เป็นสินค้ามวลชน และสินค้าที่ได้รับความนิยมในท้องตลาดทั้งประเทศ เพื่อลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชนในสถานการณ์ปัจจุบัน
ด้าน กระทรวงพลังงาน มีมติตรึงราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพี่จี)ต่ออีก 2 เดือนที่ราคา 318 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 31 ม.ค.นี้ เป็นวันที่ 31 มี.ค. 2565 และขอความร่วมมือ บมจ.ปตท. (PTT) พิจารณาช่วยเหลือส่วนลดราคาก๊าซแอบพีจีแก่ผู้มีรายได้น้อยที่เป็นร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหาร ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ ปตท. ดำเนินการต่อไปจนถึงวันที่ 31 มี.ค. 2565
และคงราคาขายปลีกก๊าซ NGV ที่ 15.59 บาทต่อกิโลกรัม และคงราคาขายปลีกก๊าซ NGV โครงการ เอ็นจีวี เพื่อลมหายใจเดียวกัน ให้กับผู้ประกอบอาชีพขับขี่รถแท็กซี่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่ 13.62 บาทต่อกิโลกรัม ออกไปเป็นระยะเวลา 1 เดือน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ.-15 มี.ค.
“สถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่ปรับตัวสูงขึ้น เป็นผลมาจากกลไกราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลต่อต้นทุนการผลิต ต้นทุนสินค้า และค่าขนส่ง ทั้งนี้รัฐบาลได้เร่งวางมาตรการทั้งระยะสั้น-ยาว เร่งติดตามหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น โดยในเบื้องต้น จะเป็นการขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการและภาคเอกชน เพื่อให้ตรึงราคาสินค้าบางส่วนที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของประชาชน ไม่ให้กระทบต่อค่าครองชีพ” นายธนกร กล่าว
