ฟาร์มหมู เพื่อพูดคุยกับเจ้าของฟาร์มที่ได้รับผลกระทบจากกรณีโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (AFS) ซึ่งหนึ่งในเจ้าของฟาร์ม คือ นายชาตรี กิจสมัคร หรือเฮียแป้น ผู้ที่ออกมาเปิดเผยต่อสาธารณะว่ามีการแพร่ระบาดของโรค ASF มาหลายปีแล้ว

นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า จากการพูดคุยกับเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูในวันนี้ ทำให้ได้ทราบความจริงที่น่าตกใจ ได้แก่ 1.เราอาจต้องกินหมูที่ราคาแพงแบบนี้ไปอีกหลายปี หรืออาจกล่าวอีกแบบ คือ บางครอบครัวอาจไม่ได้กินหมูไปอีกหลายปี

2.กรณีวัคซีน รัฐบาลต้องไม่ให้ความหวังอย่างไม่รอบคอบแก่เกษตรกร เพราะจะทำให้เกษตรกรวิ่งไปหาวัคซีนเถื่อน ปัจจุบันโรคนี้ยังไม่มีวัคซีนที่สามารถจัดการโรคได้ ซึ่งตัวอย่างจากประเทศจีนเป็นบทเรียนที่สำคัญ เนื่องจากมีความพยายามนำวัคซีนมาใช้ แต่กลายเป็นว่าทำให้ระบาดหนักกว่าเก่า อย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่าปัจจุบันรัฐบาลออกมาพูดเรื่องวัคซีนเพื่อลดแรงกดดันจากเกษตรกรเท่านั้น

3.สถานการณ์หนี้สินของเกษตรกรรายย่อยยังคงเป็นปัญหาสืบเนื่อง เพราะการมาของโรคระบาดดังกล่าว ฟาร์มต้องลดรายจ่ายด้วยการเร่งขายหมูที่มีความเสี่ยงจะติดโรค ขาดทุนหลายสิบล้านบาท การกู้เงินเพิ่มก็ติดเพดานหนี้สิน และปัญหานี้อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกษตรกรไม่อาจจะกลับมาเลี้ยงหมูได้อีก ส่วนกรณีที่รัฐบาลมีมาตรการออกเงินกู้ 1 แสนบาท ที่ให้ธ.ก.ส.อนุมัติให้เกษตรกรรายย่อยสำหรับเลี้ยงหมูต่อไปนั้น เชื่อว่าจะไม่สามารถทำได้จริงและจะส่งผลเสียมากกว่าผลดี

4.เชื่อว่าหากเรายอมรับและเริ่มแก้ปัญหาเร็ว อาจจะควบคุมการระบาดของโรคได้ แต่พอปล่อยให้เรื้อรังแบบนี้ และไม่ยอมรับว่ามีการระบาดก็เลยกระทบกันไปหมด ดังนั้น พรรคก้าวไกลจึงเตรียมยื่นญัตติเพื่อขอตั้ง คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษาข้อเท็จจริงของการระบาดครั้งนี้ด้วย

และ 5.สำหรับการกลับมาเลี้ยงใหม่ต้องตั้งโจทย์ว่าจะเลี้ยงอย่างไร ถ้าลองดูกรณีระบบปศุสัตว์ของจีนและเวียดนาม ซึ่งก่อนหน้านี้ตามหลังระบบของเราอยู่หลายปี แต่เมื่อมีการระบาดทำให้เกิดการยกเครื่องครั้งใหญ่ และปรับปรุงอุตสาหกรรมการเลี้ยงหมูได้ในที่สุด สำหรับประเทศไทยถ้าปล่อยเสรี เชื่อว่าเกษตรกรรายย่อยจะล้มละลาย และไม่สามารถกลับมาเลี้ยงหมูได้อีกเลย

ด้านนายชาตรี กล่าวว่า ตนยังคงเดินหน้าท้าให้กรมปศุสัตว์ รวมถึงสถาบันการศึกษาต่างๆ นำซากหมูจากฟาร์มของตนไปตรวจพิสูจน์ว่าตายเพราะโรคดังกล่าวจริงหรือไม่ โดยยินดีที่จะขุดซากหมูที่ฝังไว้ในพื้นที่ให้ด้วย ส่วนสถานการณ์ราคาหมูจะไม่มีทางกลับมาเป็นปกติใน 3-4 เดือนแน่นอน ต้องอีก 3 ปี เป็นอย่างน้อย โดยจากนี้ไปจะต้องมีการพักล้างฟาร์ม 2 ปี จากนั้นเมื่อซื้อแม่พันธุ์เข้ามา ฉีดวัคซีนต่างๆ กว่าจะครบชุดก็น่าจะราว 2 เดือนถึงจะผสมพันธุ์ได้ และหมูตั้งท้อง 4 เดือน คลอดออกมาลูกหมูอยู่กับแม่ 1 เดือน จากนั้นก็เลี้ยงไปอีก 5-6 เดือนอีกถึงจะขายได้ รวมๆ แล้วอย่างน้อย 3 ปี ถึงจะกลับมาเป็นปกติ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน