‘มงคลกิตติ์’ ตอบแล้ว ย้ายซบ ‘ธรรมนัส’ หรือไม่ ตะเพิด ‘ประยุทธ์’ ยุบสภา แล้วไปอยู่เมืองนอก ไม่ต้องกลับมา ชี้อยู่ไปไร้ประโยชน์-เปลืองภาษี

เมื่อเวลา 09.15 น. วันที่ 20 ม.ค.65 ที่รัฐสภา นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีองค์ประชุมสภาล่มเมื่อวันที่ 19 มกราคม ว่า ความจริงเป็นหน้าที่ของตนที่เป็นคนเสนอนับประชุม เพราะอยู่ฝ่ายค้าน แต่บังเอิญลาประชุมไปช่วยผู้สมัครของพรรคหาเสียงเลือกตั้งซ่อมส.ส.กทม. หลักสี่-จตุจักร จึงให้ นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส. บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยรักธรรมเป็นผู้เสนอนับประชุมแทน

ความจริงไม่เหมาะเท่าไร แต่จำเป็นเพราะตนกลับมาสภาฯไม่ทัน และเท่าที่ได้คุยกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ จึงให้นายพีระวิทย์ ดำเนินการแทน แต่ไม่ว่าใครจะดำเนินการเราก็อยู่กลุ่มเดียวกัน เป็นกลุ่มตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา

“ในมุมผมอยากให้ยุบสภาฯไวๆถ้ายุบพรุ่งนี้ได้ก็จะดี ไม่ต้องเลือกตั้งเขตหลักสี่ แต่ตอนนี้ไม่มีกฎหมายลูกก็ยังงงอยู่เหมือนกันว่ายุบสภาตอนนี้จะเป็นอย่างไร แต่สถานการณ์ตอนนี้ควรยุบ เพราะประชาชนไม่เอา”ลุงตู่”(พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) กันหมดแล้ว ไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้

ตอนนี้ของแพงทุกอย่างไปแล้ว ลำพังปัญญาของพล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่น่าแก้ไขปัญหาตอนนี้ได้แล้ว ต่อให้อยู่ต่ออีกปีก็เปลืองภาษีเปล่าๆ อยู่ไปก็ไม่ได้เกิดอะไรขึ้นมา ประชาชนไม่ได้อยู่ดีกินดีมากขึ้น”นายมงคลกิตติ์ กล่าว

นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า การที่ร.อ.ธรรมนัส พาส.ส.อีก 20 คน ออกจากพรรคพลังประชารัฐ เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว การประชุมสภาฯก็ไม่ครบองค์อยู่แล้ว จึงขอฝากรัฐบาลอย่าเพิ่งปล่อยผู้ติดเชื้อโควิดเกิน 1 หมื่นคน จะได้ปิดสภาฯไม่ต้องมาประชุมกัน เพื่อฉวยโอกาสไม่ต้องนำกฎหมายสำคัญเข้าพิจารณา เพราะนำเข้ามาพิจารณาก็ไม่ผ่าน ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ยุบสภาฯแล้วไปอยู่เมืองนอก เพราะไม่ได้กลับมาแล้ว

เมื่อถามว่า มีความสนิทสนมกับร.อ.ธรรมนัส จะย้ายไปพรรคเดียวกันหรือไม่ นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า เป็นพวกเดียวกันแต่อยู่คนละพรรค เพราะอุดมการณ์คืออุดมการณ์เดียวกันคือไม่เอาพล.อ.ประยุทธ์ แต่ถ้าร.อ.ธรรมนัส เอาพล.อ.ประยุทธ์ เราก็อยู่คนละอุดมการณ์กัน ซึ่งตนชัดเจนว่าไม่ต้องการให้พล.อ.ประยุทธ์ บริหารประเทศต่อไปและประชาชนส่วนใหญ่ก็ไม่ต้องการเหมือนกัน มีไอโอเท่านั้นที่อยากให้อยู่ต่อ

แต่ตนไม่รู้ว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะอยู่ไปทำไม ควรกลับบ้านไปได้แล้ว หมดเวลาแล้ว อยู่ไปก็ไร้ประโยชน์ เปลืองภาษี และพรรคฝ่ายค้านพร้อมเลือกตั้งทุกพรรค แล้วจัดตั้งรัฐบาลใหม่ดีกว่า และไม่ต้องให้โอกาสพล.อ.ประยุทธ์ แก้ปัญหาหมูแพง เพราะไม่มีปัญญาแก้อยู่แล้ว

นายมงคลกิตติ์ กล่าวต่อว่า การที่ร.อ.ธรรมนัส พร้อมพวกส.ส.ออกมาจากพรรคพลังประชารัฐแบบนี้พรรคก็แตก กลายเป็นพรรคย่อย ศรัทธาของประชาชนก็ไม่มี และการต่อรองตำแหน่ง มองว่าหมดเวลาต่อรองแล้ว ตอนร่วมรัฐบาลสามารถต่อรองได้ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลา เพราะเป็นช่วงปลายสมัย ทำให้ศรัทธาของประชาชนเสียหาย และหากอยู่ต่อไปก็ไม่ได้แก้ปัญหาต้องกู้เงินอีก 7 แสนล้าน

“ขอถามว่าน้ำหน้าแบบพล.อ.ประยุทธ์ จะบริหารประเทศแล้วแก้ปัญหาได้ น้ำหน้าแบบนี้ไม่มีทาง อยู่ไปก็ไร้ประโยชน์ ดังนั้นจะต่อรองผลประโยชน์ไปเพื่ออะไร เพราะต้องแก้ปัญหาให้ประชาชน ไม่ใช่ต่อรองจับกุม แบ่งผลประโยชน์ แบ่งเค้กกัน ไร้สาระ ลำพังรายรับประเทศไม่พอรายจ่ายอยู่อล้ว แล้วจะแบ่งอะไรมีแต่เงินกู้ของประชาชนยังจะแบ่งกันอีก”นายมงคลกิตติ์​กล่าว

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน