‘วิโรจน์’ ตรวจทางม้าลาย หลังบิ๊กไบก์ ชน ‘หมอกระต่าย’ เสียชีวิต ย้ำต้องใช้เทคโนโลยีแก้ สร้างค่านิยมใหม่ใช้รถ ลงพื้นที่ครั้งแรก หลังเปิดตัวชิงผู้ว่าฯ กทม.

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 24 ม.ค. ที่บริเวณหน้าโรงพยาบาลสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ เขตพญาไท กทม. นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) พรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองเลขาธิการพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ครั้งแรกหลังเปิดตัวลงชิงผู้ว่าฯ กทม. ตรวจสอบทางม้าลายที่เกิดอุบัติกรณีตำรวจควบคุมฝูงชนขี่บิ๊กไบก์ชนแพทย์หญิงจนเสียชีวิต

นายวิโรจน์ กล่าวว่า วันนี้ตนลงมาดูโครงสร้างปัญหา เพื่อดูว่าทางวิศวกรรมจะแก้ไขอย่างไรได้บ้าง ซึ่งหลังจากทดลองเดินข้ามทางม้าลายที่เกิดเหตุ วันนี้พฤติกรรมของประชาชนทุกอย่างยังเหมือนเดิม การเดินข้ามถนนต้องรีบวิ่งหลบรถกันอยู่ เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องผิดปกติมาก แต่จะโทษนิสัยคนขับรถอย่างเดียวไม่ได้ มันต้องมีกลไกหรือระบบเตือนใจ กทม.จะต้องมีเส้นชะลอความเร็ว ต้องมีไฟส่องสว่าง ต้องมีไฟสัญญาณ กล้องวงจรปิดต้องมี กล้องตรวจจับความเร็ว

ซึ่งนอกจากเทคโนโลยีแล้ว การดูแลเมืองต้องใส่หัวใจไปด้วย ทางข้ามต้องปลอดภัย คนข้ามต้องปลอดภัยเป็นอันดับแรก ไม่ว่าจะมีอาชีพใด เพศไหน แค่ไม่กี่ตารางเมตรตรงนี้ต้องปลอดภัยได้

นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า เมื่อมีเหตุเกิดขึ้น กทม.ต้องเป็นเจ้าทุกข์ไปแจ้งความดำเนินคดีให้ทันทีเพื่อปกป้องชีวิตทุกคน แม้เราไม่มีหน้าที่ปรับโดยตรง แต่เรารวบรวมพยานหลักฐานไปแจ้งความได้โดยไม่ต้องรอเจ้าทุกข์ เมื่อจับและตัดแต้มเรื่อยๆ เราจะสามารถสร้างค่านิยมใหม่ในการใช้รถใช้ถนนได้

ตนไม่เห็นด้วยกับการสร้างสะพานลอยเพื่อแก้ไขปัญหา เพราะประชาชนต้องการเดินข้ามถนนด้วยทางข้าม กทม.ไม่ควรสร้างภาระให้ประชาชน แต่ควรอำนวยความสะดวกให้ประชาชน เราต้องให้ความสำคัญกับประชาชนที่ใช้ถนนบนทางเท้า หากวันนึงคนที่ประสบอุบัติเป็นพี่น้องเรา เป็นครอบครัวเรา เราต้องรับผิดชอบ มีจิตสำนึกต่อสิ่งที่เกิดขึ้น

“คนที่เป็นพ่อเมืองหรือพ่อบ้านต้องไม่ท้อ เราต้องเป็นเหมือนพ่อบ้านจู้จี้จุกจิก แต่เพื่อความปลอดภัยของทุกคน ผู้ว่าฯ ต้องเป็นพ่อเมืองที่เข้าใจหัวอกของทุกคน” นายวิโรจน์ กล่าว

ขณะที่ นายสุรเชษฐ์ กล่าวถึงแนวทางแก้ไขทางวิศวกรรม 3 ประเด็น ได้แก่ 1.จะต้องมีการควบคุมความเร็ว ไม่ว่าจะด้วยเทคโนโลยี หรือมีป้ายเตือน เพราะบนถนนมีจุดบอด (blind spot) 2.จะต้องมีการกวดขันวินัยจราจร โดยเสนอเป็นกฎหมายเชิงตัดแต้มที่ไม่ใช่การจ่ายค่าปรับอย่างในปัจจุบัน ซึ่งไม่กระทบกับคนรวย และ 3.แก้ไขแต่ละจุด หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ต้องพิจารณาหากลไกดูตามแต่ความเหมาะสมในพื้นที่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน