สมศักดิ์ ยันหลักสี่ไม่ได้แพ้เพราะชื่อพรรค เมิน ธรรมนัส โพสต์แขวะ บอกพลังประชารัฐเป็นอิสระ ไม่มีสั่งซ้ายหันขวาหัน ย้ำสามมิตร ไม่ชิ่งหนี
เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2565 ที่รัฐสภา นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวถึงนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้านในสภา ระบุเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคพลังประชารัฐอยู่ในช่วงขาลง จะเป็นพรรคต่ำ 50 หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงว่า ในพรรคเปลี่ยนแปลงกันมากแล้วในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ และผลการเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต 9 กทม.ที่ออกมา กับสิ่งที่เขาปรับเปลี่ยนปรับปรุง คิดว่าได้แก้ปัญหาไปแล้ว ต่อไปต้องรอเวลา ทั้งของรัฐบาลและรัฐสภา ยังมีเวลากว่า 1 ปี 2 เดือน ที่จะทำให้เกิดความเข้าใจ ในสิ่งที่คนไม่เข้าใจ คนในพรรคก็จะเข้าสู่หมวดการเมืองอย่างแท้จริง
เมื่อถามว่ายอมรับหรือไม่ว่าคะแนนนิยมของพรรคตกลง นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ต้องบอกว่ามันเกิดการเปลี่ยนแปลงแล้ว สิ่งที่เป็นผลในอดีตก็ปรากฏให้เห็น ซึ่งแล้วแต่คนมองว่าตกต่ำหรือไม่ตกต่ำ ต้องรอดูก้าวเดินต่อไปของพรรค ตนเชื่อว่าหัวหน้าพรรคคงจะเข้าใจอะไรมากมาย และคงต้องก้าวเดินต่อไป จะถอยหลังหรือหยุดไม่ได้
เมื่อถามว่ามีการถอดบทเรียนผลการเลือกตั้งหรือไม่ เพราะหลายฝ่ายมองว่าชื่อของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ไม่สามารถขายได้แล้ว นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ได้แพ้เพราะชื่อพรรค แต่ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต้องทำความเข้าใจ จะขยับปรับเปลี่ยนหรือไม่ ยังต้องเดินต่อไปให้ได้ ต้องใช้เวลาปรับแนวทางไปสู่เป้าหมายที่แท้จริง
ส่วนที่ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา โพสต์ระบุศัตรูของศัตรูคือเพื่อนนั้น นายสมศักดิ์กล่าวว่า เรื่องเล็กๆ ตนไม่สนใจ ส่วนกังวลหรือไม่ว่า ส.ส. 21 คนที่ออกไป จะทำให้เสถียรภาพรัฐบาลสั่นคลอน ขอย้ำว่าเรื่องจริงอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่คิด
ส่วนการกระทำของ ร.อ.ธรรมนัส เป็นการส่งสัญญาณเตือนรัฐบาลหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ ไม่ได้ดูขนาดนั้น ส่วนจะคุมได้หรือไม่ หากออกไปแล้วเพราะเมื่ออยู่ในพรรคก็ไม่สามารถคุมได้ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐมีประชาธิปไตยสูง คุมกันตนว่าไม่มี ที่ผ่านมาไม่มีว่าจะต้องสั่งซ้ายไปขวา พลังประชารัฐเป็นประชาธิปไตยไม่ได้สั่งการอะไรเลย ที่ผ่านมาก็อิสระมากๆ ปล่อยเสรีมากๆ แต่อาจเลยไปบ้าง ก็ดึงกลับมา
เมื่อถามว่าเวลาที่เหลืออยู่มั่นใจว่าจะกู้วิกฤติศรัทธาของประชารัฐอย่างไร นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตอนนี้เรากลับมายืนอยู่ในที่ที่ควรจะเป็น ซึ่งต้องรอฝ่ายบริหารของพรรคที่จะต้องดำเนินการต่อไป ตนไม่กล้าไปพูดหรือแนะนำ แต่เราทำในส่วนที่เรารับผิดชอบให้ดีที่สุดและทุกคนทำหน้าที่ให้สุด ตนคิดว่ากลับมาได้
ส่วนจะสั่งสังคายนาพรรคหลังร.อ.ธรรมนัสออกไปหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า แล้วแต่ผู้บริหารพรรค แต่ทุกคนต้องเตรียมตัวเองให้รู้ว่า นี่คือการเมือง ไม่ใช่ทำเพื่อตัวเอง แต่ต้องทำเพื่อส่วนรวม ทำอย่างไรให้ส่วนรวมยอมรับได้ ถ้าเราไม่ทำหรือทำเหมือนเดิม ก็อาจสู้คนอื่นเขาไม่ได้ แต่เชื่อว่ายังมีเวลาอยู่
ส่วนกระแสข่าวระบุเลือกตั้งครั้งหน้ากลุ่มสามมิตรจะไม่อยู่กับพรรคพลังประชารัฐแล้วนั้น นายสมศักดิ์กล่าว ยืนยันว่ากยังอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ เมื่อถามย้ำว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะลงในนามพรรคพลังประชารัฐแน่นอนใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า อย่าไปถามอย่างนั้น เพราะเป็นเรื่องไม่สร้างสรรค์
