สภาฯล่มครั้ง 2 ของเดือนก.พ. หลังยื้อเกือบชั่วโมง พิเชษฐ์ซัด ชวน อย่าเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น เจอสวนกลับ สุดท้ายไปต่อไม่ไหว องค์ประชุมไม่ครบได้แค่ 195

วันที่ 4 ก.พ.2565 ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณารายงานผลพิจารณาศึกษาผลกระทบและแนวทางแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเลไทยอย่างยั่งยืน ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสาธารณภัยพิจารณาเสร็จแล้ว โดยหลังจากสมาชิกอภิปรายอย่างกว้างขวาง

เวลา 14.05 น. นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานที่ประชุมได้กดออดเรียกสมาชิกเพื่อตรวจสอบองค์ประชุมก่อนลงมติรับทราบรายงานดังกล่าว แต่เนื่องจากมีสมาชิกอยู่ในห้องประชุมบางตา องค์ประชุมอาจไม่ครบ

นายชวน จึงพยายามรอเวลา ขอให้สมาชิกที่อยู่ด้านนอกให้เข้ามาในห้องประชุมก่อน ใช้เวลานานกว่า 20 นาที แต่สมาชิกในห้องก็ยังน้อยอยู่

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย จึงเสนอประธานพักการประชุม 30 นาที เพื่อรอสมาชิก แต่นายชวน ให้พัก 15 นาที แต่สุดท้ายไม่ได้พักประชุม เนื่องจากนายชวน กังวลว่าสมาชิกจะลดน้อยลงจากเดิม

กระทั่งในที่สุด นายวิรัช พันธุมะผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย เสนอนับองค์ประชุมแบบขานชื่อ แต่ฝ่ายค้านขอให้นับแบบแสดงตนเสียบบัตร ที่สุดนายชวน วินิจฉัยให้แสดงตนตามที่นายวิรัช เสนอ

ทำให้นายจุลพันธ์ ลุกขึ้นคัดค้านว่า วันนี้พวกเรากำหนดจะประชุมถึงเวลา 17.00 น. หากนับองค์ประชุมแบบขานชื่อ จะทำให้เสียเวลากว่าจะเสร็จก็ 17.30 น. ก็ไม่ต้องประชุมต่ออยู่ดี ถ้าเดินเกมการเมืองแบบนี้ ฝ่ายค้านไม่ยุ่งด้วย ขออยู่นอกห้องประชุม

จากนั้น นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ประท้วงว่า วันนี้ประธานทำหน้าที่ไม่เป็นกลาง ทำให้นายชวน สวนกลับว่า พูดอะไร ต้องย้อนดูตัวเองด้วย ยืนยันว่าตนเองไม่ได้ลำเอียงในการทำหน้าที่ แต่นายพิเชษฐ์ กล่าวโต้ตอบว่า “ไม่เป็นไรครับท่านประธาน ท่านก็ต้องดูตัวเองด้วย ท่านอย่ามาว่าผม อย่าเอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น”

นายชวน จึงชี้แจงว่า ต้องดำเนินการไปตามข้อบังคับ ไม่เช่นนั้นจะถูกตำหนิ แต่นายพิเชษฐ์ กล่าวว่าสถานการณ์แบบนี้ท่านอยู่ได้อย่างไร ห้องประชุมเป็นแบบนี้อยู่ได้อย่างไร อย่างไรก็ตาม นายพิเชษฐ์ ได้กล่าวขอโทษภายหลัง

ต่อมา นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ญัตติที่นายวิรัชเสนอ น่าจะไม่ถูกต้องเพราะไม่มีส.ส.รับรอง ดังนั้นการเสนอจึงไม่ชอบ นายชวน จึงกล่าวว่า เมื่อนายศุภชัย ยืนยันว่าญัตติการเสนอนับไม่ถูกต้อง คำสั่งที่ตนสั่งไปก่อนหน้านี้ที่ให้นับองค์ประชุมแบบขานชื่อ ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นกล่าวว่า “ญัตติที่ผมได้เสนอให้ขอนับองค์ประชุมแบบเสียบบัตร ยังอยู่ และถูกต้องทุกประการ เพราะมีสมาชิกรับรองกว่า 20 คน”

ในที่สุด เวลา 14.45 น. นายชวน ได้กดออดเรียกให้สมาชิกเข้าห้องประชุมอีกครั้ง เพื่อเสียบบัตรแสดงตน อย่างไรก็ตามเมื่อประกาศผลนับองค์ประชุม ปรากฏว่ามีสมาชิกเพียง 195 คน ไม่ถึงกึ่งหนึ่งคือ 237 คน ถือว่าไม่ครบองค์ประชุม ประธานจึงสั่งปิดประชุมเวลา 14.50 น.

ทั้งนี้ สภาได้ยื้อเวลาเพื่อนับองค์ประชุมนานเกือบ 1 ชั่วโมง แต่ก็ไม่เป็นผล ทำให้เหตุการณ์สภาล่มครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่ 2 ของเดือนก.พ.ที่เพิ่งผ่านมาแค่ 4 วัน และถือเป็นครั้งที่ 16 ของสภาผู้แทนฯชุดนี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน