“อนุทิน” เปรย “หนูเปล่านะ เขามาเอง” เปิดรับ 2 พ่อลูกช่างเหลาลั่น ไม่หัก “บิ๊กป้อม-ธรรมนัส” เหตุ ปัด ไม่ขอโควตารัฐมนตรี ยัน ข้อตกลงเหมือนเดิม ย้ำ สายสีเขียว ไม่ใช่จุดแตกรัฐบาล

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 15 กุมภาพันธ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึง กรณีนายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ นายวัฒนา ช่างเหลา ส.ส.ขอนแก่น อดีตพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มาสมัครเป็นสมาชิก พรรค ภท. จะทำให้ผิดใจกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. หรือไม่ ว่า

ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร คนที่จะเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรค ภท. ต้องแสดงความจำนงที่จะเข้ามาสมัครเป็นสมาชิก หากเป็นคนที่ทุ่มเทเสียสละ ไม่มีประวัติด่างพร้อย ก็รับเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคอยู่แล้ว และขณะนี้พรรคภท.มีสมาชิกเป็นแสนคน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้นายเอกราช มีเรื่องคดีค้างอยู่จะมีปัญหาอะไรหรือไม่ นายอนุทิน ย้อนถามว่า “เขามีคดีหรือ เห็นใบสมัครแล้ว ไม่มีปัญหาอะไร หากมีคดี จะเป็น ส.ส. ไม่ได้ตั้งแต่แรก และไม่สามารถสังกัดพรรคการเมืองใดได้”

เมื่อถามว่าได้พูดคุยกับทั้งสองคนมานานแล้วหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ทั้งสองคน คงสนิทกับหลายคนในพรรค ภท. เมื่อถามย้ำว่านายเอกราช ถูกมองว่าเป็นมือขวาของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย จะทำให้มีปัญหากับ ร.อ.ธรรมนัส หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “เพื่อนกันทั้งนั้น พรรคพวกเดียวกันอยู่พรรคเดียวกัน คนละพวก กับอยู่คนละพรรคแต่พวกเดียวกัน มันดีทั้งคู่”

เมื่อถามว่า พรรค ภท. ดูดส.ส. ไปหลายคน โดยเฉพาะในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และพื้นที่ภาคอีสานตอนใต้ ถือเป็นการเตรียมปูทางไปสู่การเลือกตั้งใหญ่ หรือไม่ นายอนุทิน หัวเราะก่อนกล่าวว่า “ไม่เคยดูด หนูเปล่านะ เขามาเอง” เมื่อถามย้ำว่าจะมี ส.ส. เข้ามา พรรค ภท. อีกหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็แล้วแต่

ผู้สื่อข่าวถามว่าการที่ พรรค ภท. มีส.ส.เพิ่มมากขึ้น จะส่งผลทำให้มีการ ปรับ ครม. หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มี เป็นคนละเรื่องกัน นี่คือข้อพิสูจน์เรื่องที่บอกว่ากดดันรัฐบาล หรือกดดันนายกฯ มีที่ไหน การกดดันทางการเมือง หลักๆมีอยู่เรื่องเดียวคือโควตารัฐมนตรี แต่ขอยืนยันว่าพรรคภท. จะอยู่แบบนี้ไปยันจบ คำว่ากดดันจะไม่มีการพูดกันอีกแล้ว

เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้พูดถึงการปรับครม.แล้วหรือยัง เพราะมีกระแสกดดันจากอดีต ส.ส. 21 คน ที่ออกจาก พรรค พปชร. นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มีเลย สมมติถ้าจะปรับครม.ก็เป็นสิทธิ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะขณะนี้มีตำแหน่งรัฐมนตรีว่าง 2 ตำแหน่ง ซึ่งไม่ใช่โควตาของ พรรค ภท. และไม่ว่าพรรคภูมิใจไทย จะมี ส.ส. กี่คน เราถือว่าเริ่มมาเท่านี้ และยังเป็นช่วงปีสุดท้ายของสภา จึงต้องสนับสนุนและทำงานด้วยกันให้บ้านเมืองและประโยชน์มากที่สุด

เมื่อถามว่า หากจะมีการ ปรับ ครม. ต้องไม่กระทบโควตา พรรค ภท. ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า โดยธรรมชาติไม่กระทบอยู่แล้ว ก็มีอยู่แค่นี้และก็ไม่เคยมีใครกระทบ ทั้งพรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคพลังประชารัฐ มีการสงวนอัตราของรัฐมนตรีเอาไว้แล้ว ไม่มีใครไปทวงว่าจะมีใครได้มากกว่าหรือน้อยกว่า ไม่มีประเด็น ทำงานอย่างนี้ไปดีกว่า

เมื่อถามว่าเชื่อว่าการทำงานของรัฐบาลจะอยู่ครบเทอมใช่หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า พยายามให้ครบเทอม ต้องเข้าใจซึ่งกันและกัน ที่ผ่านมาเข้าใจกันดีมาตลอด ไม่ได้มีความขัดแย้ง อย่าไปผูกกัน การทำงานก็มีความเห็นต่างของหน่วยงาน ไม่ใช่การเห็นต่างในนโยบาย

“มีกระแสว่าโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว เป็นจุดแตกของรัฐบาล ผมว่าห่างไกลจากจุดนั้นเยอะมาก เพราะเป็นความเห็นทางกฎหมายที่แตกต่างกัน คนอีกคนมองว่าทำได้ คนอีกคนมองว่าทำไม่ได้ เพราะเสี่ยงคดี เสี่ยงคุก เสี่ยงค่าเสียหาย พอมีเรื่องอาญามาเกี่ยวข้องจึงบังคับกันไม่ได้ ต้องให้เกียรติกัน ต้องยอมให้แต่ละฝ่ายใช้ดุลยพินิจ ส่วนมติครม.จะเป็นเช่นใดก็ว่ากันไป แต่จะมาบังคับให้เห็นเหมือนกันทุกอย่าง ต้องรับคุณรับโทษเท่ากันหมดนั้นไม่ใช่ ต้องไปพิจารณากันเอาเอง และใช้ดุลยพินิจจึงต้องมีการพิจารณา ไม่เช่นนั้นก็เพื่อทราบ เพื่ออนุมัติหมด” นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามว่า ขณะนี้ พรรค ภท. มีส.ส.จำนวนมาก ในครั้งหน้าจะเป็นแกนนำรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “ไม่หรอก เจียมเนื้อเจียมตัว เขามาถึงชานเรือนเราก็ต้อนรับ และสัญญาว่าจะทำความดีให้กับบ้านเมือง ถ้าใครผิดสัญญาก็จะไม่เอาไปด้วยแค่นั้นเอง”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน