ใคร ? ปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.ก้าวไกล พิษณุโลก ซัดไอ้โม่ง ต้นเหตุปกปิดอหิวาต์หมู ทำหมูแพง นั่งอยู่ข้าง ๆ ‘บิ๊กตู่’ ถามจะรับผิดชอบการปกปิดข้อมูลไหม

17 ก.พ. 2565 – นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล อภิปรายถึงการเกิดโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) จนส่งผลให้มีหมูราคาแพงในประวัติศาสตร์ว่า ราคาหมูแพงมาตลอดนับตั้งแต่เดือน ต.ค. 2564 และแพงสุดในเดือน ม.ค. 2565

อีกทั้งในเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา เป็นวันที่กรมปศุสัตว์ยอมรับว่ามีโรคระบาด ASF และมีการตรวจสอบการกักตุนเนื้อหมูในห้องเย็น หากไม่มีการเปิดเผยข้อมูลตรงจุดนี้ เชื่อว่าราคาหมูอาจทะลุถึง 300 บาทได้ แต่รัฐบาลกลับออกมาเครมว่าสามารถแก้ได้ถูกจุด ซึ่งตนมองว่าเป็นละครตบตาคนไทยทั้งประเทศ

เพราะคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทราบมานานแล้วว่ามีโรคระบาด แต่ท่องตามโพยว่าไม่มีโรคระบาด ทั้งที่ความเสียหายได้เกิดขึ้นในฟาร์มขนาดเล็ก เกษตรกรเจ๊ง ส่วนกลุ่มทุนใหญ่นั้นไม่กระทบกระเทือน ได้กำไรมหาศาล การส่งออกทะลุเป้าหมาย ไม่เข้าใจว่าเหตุใดรัฐบาลจึงปกปิดข้อมูล หากประกาศโรคระบาดนี้ตอนต้นปี 64 ยังพอรับได้ แต่ปี 64 จนหมูพังพินาศกลับบอกว่าไม่มีโรคระบาด หากไม่รับผิดชอบก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร

ส.ส.ก้าวไกล กล่าวต่อว่า หากเราไม่ทำอะไรสักอย่างกับสถานการณ์นี้ ปล่อยให้รัฐบาลและกรมปศุสัตว์ ปกปิดข้อมูลแบบนี้ สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตคือทุนใหญ่จะกินรวบ ผูกขาด การผลิตเนื้อหมูทั้งหมด เพราะโรคระบาดทำลายฟาร์มเล็ก ฟาร์มขนาดกลางไปหมดแล้ว ทุนใหญ่จะเข้ามาควบคุมปัจจัยการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ และจะควบคุมได้ไปยังแผงขายในตลาดสด เพราะปกติต้องมีมีทุนเล็ก กลาง และย่อยเพื่อถ่วงดุลราคา แต่ตอนนี้มันกินรวบเบ็ดเสร็จ

“อยากถามนายกรัฐมนตรีว่า จะรับผิดชอบการปกปิดข้อมูล การละเลย การปฏิบัติหน้าที่ ความฉ้อฉลของกรมปศุสัตว์ที่ทำให้ประเทศเสียหายอย่างไร คุณประยุทธ์ บอกให้ผมเอาไอ้โม่งออกมา ก็นั่งอยู่ข้างกัน หากหาไอ้โม่งไม่เจอ นายกฯก็ไปส่องกระจกว่านี่คือความรับผิดชอบของท่าน”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน