‘สุชาติ’ ลั่นจบแล้ว ยันไม่มีปัญหากับ ‘สนธยา’ แขวะอาจมีคนข้างๆพูดเอง ยันเป็นพี่น้องคลานตามกันมา ยอมรับถ้าอยู่คนละพรรคก็ต้องแข่งขันกัน

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 22 ก.พ.65 ที่ ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังร่วมประชุม ครม. นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ผอ.พรรคพลังประชารัฐ และส.ส.ชลบุรี ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาขัดแย้งกับ นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ว่า คิดว่าไม่มีอะไรแล้ว ใครมีเป้าหมายเสียสละทำงานเพื่อประชาชนถือว่ามีเป้าหมายเดียวกันหมด ตนก็ถือว่าเราจบแล้ว ก็มาบริหารจัดการพื้นที่แต่ละจังหวัดก่อน

ส่วน จ.ชลบุรี นั้นได้ให้สัมภาษณ์ไปหลายครั้งแล้ว ว่าถ้าอุดมการณ์และแนวทางตรงกันก็ไปได้ด้วยกัน เพราะเรื่องของการเมืองถ้าเป้าหมายเดียวกันเพื่อสนับสนุนผู้นำและพรรคการเมืองเดียวกัน ก็อยู่ด้วยกันเท่านั้นเอง ถ้าอยู่กันคนละพรรคก็ต้องแข่งขันกันก็ถือเป็นประชาธิปไตยที่สวยงามอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่าจำเป็นต้องเคลียร์กันหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า ไม่จำเป็น เพราะเป็นเรื่องที่อาจจะมองกันคนละมุม แต่เราเคยอยู่ด้วยกันไม่ได้มาทะเลาะกันนะอย่างที่หลายๆ คนพูด ยืนยันว่าไม่ถึงขนาดนั้น บางครั้งอาจเป็นเรื่องที่มองกันคนละมุมทำให้ความน้อยอกน้อยใจของบางคนเกิดขึ้น ความจริงเราก็เหมือนเป็นพี่น้องคลานตามกันมา เมื่อความคิดเห็นไม่ตรงกันเหมือนกับทำธุรกิจ ถ้าบริหารและไม่ตรงกัน ต่างคนก็ต้องต่างออกกันไปอยู่คนละบริษัท แต่ความเป็นพี่น้องยังอยู่เพราะไม่ได้ทะเลาะกัน

เมื่อถามถึงกรณีนายสนธยา ระบุรู้ที่ไปแต่ไม่รู้ที่มา หมายความว่าอย่างไร นายสุชาติ กล่าวว่า “คงไม่ใช่ผมอยู่แล้ว และไม่ได้เป็นอย่างที่มีใครออกมาพูด อย่าลืมว่านักการเมืองไม่มีใครที่จะร่วมกันตั้งแต่ต้นจนจบ ก็เห็นกันอยู่ บางคนก็ไปในที่ที่กาลเวลามันใช่

“หรืออย่างวันนี้ผมมีสถานการณ์ ที่พรรคพลังประชารัฐให้โอกาส โดยเฉพาะจากหัวหน้าพรรค มีโอกาสจากนายกรัฐมนตรี ผมก็ต้องยืนอยู่ตรงนี้ ซึ่งใครถ้าไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับมุมมองแต่ละคน แต่เมื่อผมยืนอยู่ตรงนี้ก็ต้องมองตัวเองเป็นหลัก และไม่กล้าไปมองแทนคนอื่น”นายสุชาติกล่าว

ผู้สื่อถามว่าสถานภาพยังเหมือนเดิมหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า วันนี้ก็ยังถือว่าเราเป็นคนบ้านเดียวกัน เคยอยู่ด้วยกัน ยืนยันอีกครั้งว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่การทะเลาะกันอย่างที่หลายคนคิด แค่เป็นการสะท้อนมุมมองของแต่ละข้างออกมา และวิเคราะห์กันเท่านั้นเอง ส่วนตัวคิดว่าสุดท้ายแล้วการเมืองอยู่ที่เป้าหมายสุดท้ายของแต่ละคน ถ้าเป้าหมายตรงกันและจับมือกันพัฒนาประเทศและชลบุรีให้เป็นแนวทางเดียวกัน

รวมทั้งสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ในวันข้างหน้า ให้อยู่กับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ก็ไปด้วยกันได้ แต่ถ้าไม่ใช่เราก็ไม่สามารถไปกำหนดทิศทางของใครได้เพราะเราต้องเคารพกันคิดของแต่ละบุคคล แล้ววันนี้อย่าเพิ่งถามถึงอนาคตเพราะยังไม่ถึง เพียงแต่วันนี้เรายืนหยัดว่าเรายืนอยู่ตรงนี้

เมื่อถามว่าได้คลียร์กันได้เจอหน้ากันแล้วหรือไม่ นายสุชาติ ปฏิเสธว่า “ไม่ได้เคลียร์กัน อย่างที่บอกไปแล้วว่าเราเคยอยู่ด้วยกันเป็นหลาย 10 ปี รู้นิสัยกันอยู่ว่าไม่ได้มีอะไรกับนายสนธยา ท่านอาจจะพูดเพราะอาจมีใครข้างๆ ไปพูดหรือทำอะไรให้คิดอย่างนั้น

อย่างไรก็ตามที่พูดกันไปมาก็สะท้อนให้เห็นแล้วว่าเหมือนพี่กับน้อง ที่ไม่ได้คุยกันมานาน นายสนธยาก็เป็นนายกเมืองพัทยา ส่วนผมมาเป็นรัฐมนตรีก็ได้พูดคุยกับ นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว. วัฒนธรรมอยู่แล้ว ยืนยันเราไม่ได้มีอะไร“

นายสุชาติ กล่าวว่า ในส่วนการเตรียมตัวผู้สมัครส.ส.ชลบุรี ในฐานะที่ตนรักษาการ ผอ.พรรค พล.อ.ประวิตรได้สั่งการอยู่แล้ว โดยภารกิจของตำแหน่งก็ได้ปรึกษากับนายอิทธิพล มาตลอด แต่ไม่ได้ปรึกษากับนายสนธยา เพราะไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) คงไปปรึกษาท่านไม่ได้

เมื่อถามว่านายอิทธิพล ตัดสินใจลงส.ส.ชลบุรี พรรคพลังประชารัฐหรือยัง นายสุชาติ กล่าวว่า นายอิทธิพลเป็นพี่ และเป็นส.ส.มาก่อนตน พี่น้องกันเดี๋ยวเราคุยกันได้ เพราะเป็นคนบ้านเดียวกัน เกิดตำบลเดียวกัน โดยหลักการเราต้องเว้นที่ให้ผู้สมัครเดิมถือเป็นมารยาทและต้องให้สิทธิคนเดิมก่อน ไม่เช่นนั้นจะอยู่อย่างสามัคคีได้ยังไง

เมื่อถามว่าครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นศึกสายเลือด “คุณปลื้ม” เพราะนายสมชาติ คุณปลื้ม น้องชายนายสมชาย คุณปลื้ม หรือกำนันเป๊าะ ย้ายมาอยู่กับกลุ่มนายสุชาติ เรื่องนี้นายสุชาติ กล่าวว่า “สมัยก่อนผมเป็นเด็กที่สุดที่อยู่กับนายสมชาย บิดาของท่านสนธยา และผู้หลักผู้ใหญ่ที่อยู่ด้วยกัน ผมให้ความนับถือทุกคน วันหนึ่งในทางการเมืองมีแค่ตำแหน่งเดียวในตำบลแสนสุข ขณะนั้นนายสมชาติ ลงสมัครในนามนายกเทศบาลเมืองแสนสุข แข่งกับน้องชายของนายสนธยาคนเล็ก ความอึดอัดใจก็เกิดกับพี่น้องทั้งตำบลเช่นกัน

และในเมื่อเขามาหาและให้กำลังใจเราก็ต้องตอบรับ จะไปบอกว่าอย่ามา คงไม่ใช่ ยืนยันว่าไม่บานปลายเป็นศึกสายเลือด ปีที่ผ่านมานายสมชาติ ลงแข่งนายกฯแสนสุขกับ นายณรงค์ชัย คุณปลื้ม ไปเรียบร้อยแล้วไม่ใช่มาเกิดเพราะตน

ยืนยันอีกครั้งว่าเป้าหมายของเราคือทำอย่างไรให้พรรคพลังประชารัฐเติบโตและเข้มแข็งเป็นพรรคและสถาบันการเมือง เพื่อให้หัวหน้าพรรคมีความสบายใจ และทำอย่างไรให้สมาชิกรวมถึง ส.ส. มีความสุข มีความเข้มแข็งในพื้นที่

รวมทั้งขยายพื้นที่เพื่อเตรียมตัวเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในอีก 1 ปีข้างหน้า พรรคพลังประชารัฐ สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว ใครมีเป้าหมายเดียวกันก็อยู่ด้วยกันทั้งหมด ยืนยันไม่มีบานปลายคนเคยอยู่ด้วยกัน เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันมาอย่างเคียงบ่าเคียงไหล่

เมื่อถามว่าวันนี้หัวหน้าพรรคสบายใจหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร ไว้ใจอยู่แล้ว การทำงานการเมืองใครมีหน้าที่อะไรก็ทำตรงนั้น ตนก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ได้เนื่องจากพรรคการเมืองอื่นหรือผู้สมัครต่างๆ ก็เปิดตัวไปหมดแล้ว แต่ในจังหวัดชลบุรียังรออยู่ เลยต้องรีบจัดเช่นกัน

“ความจริงผมได้พูดคุยกับคนใกล้ชิดท่านสนธยาแล้ว ว่าโดยส่วนตัวไม่มีอะไรกับท่าน สิ่งที่เกิดขึ้นอาจจะไม่ใช่ความคิดของท่านก็ได้ ผมจึงจำเป็นต้องชี้แจงและถือว่าจบแล้วและเราเป็นน้องก็ตั้งหน้าตั้งตาทำงานให้พี่น้องประชาชนดีกว่า ไม่อยากให้สื่อหรือคนอื่นมองว่าการเมืองเป็นเรื่องการทะเลาะเบาะแว้งเพื่อตำแหน่งและผลประโยชน์

ยืนยันว่าการเมืองคือเรื่องของอุดมการณ์ การมีปัญหากระทบกระทั่งกันบ้างยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องผลประโยชน์ วันนี้เราอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ก็เท่านั้นเอง วันนี้บอกเลยว่าไม่มีอะไรกับพี่ ไม่มีอะไรกับท่านสนธยา แค่ผมมีอุดมการณ์และจุดยืนของผมก็เท่านั้นเอง

ผมมาวันนี้ได้ก็ต้องสู้ รวมทั้งการเลือกตั้งครั้งหน้าก็ต้องสู้ให้พรรคพลังประชารัฐอย่างเต็มที่ ทำอย่างไรจะให้เสียงสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีโดยพรรคพลังประชารัฐเป็นผู้เสนอเช่นเดิม”

นายสุชาติ กล่าวว่า สำหรับการวางตัวผู้สมัครต่างๆนั้น มีการวางกันไว้อยู่แล้ว แต่สามารถปรับแต่งได้ แต่ไม่ได้คุยกับนายสนธยา เพราะไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค ตนต้องคุยกับนายอิทธิพลก่อน งส่วนใหญ่เป็นการคุยนอกรอบ ไม่เป็นทางการ เราต้องคุยกับคนที่เป็นสมาชิกพรรคก่อน หรือทาบทามคนที่จะลาออกจากพรรคอื่นเพื่อมาอยู่กับเรา

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน