หมอระวี เสนอวิธีคำนวณปาตี้ลิสต์ ทุกคะแนนไม่ตกน้ำ แนะยุบพรรค หากซื้อเสียงเกิน 3 เขต ด้านเสรี ชงยกเลิกซื้อเสียงไม่มีความผิด ปล่อยให้ผู้สมัครมีจิตสำนึก
เมื่อเวลา 14.35 น. วันที่ 24 ก.พ.2565 ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมรัฐสภา พิจารณาร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. จำนวน 4 ฉบับ นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ อภิปรายว่า ขอเสนอวิธีคิดคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ คงหลักการคะแนนเสียงไม่ตกน้ำ และหลักการ ส.ส.พึงมี ซึ่งการหารคะแนน ต้องหารด้วย 500 ไม่ใช่ 100 และใช้แนวทางเดิมของรัฐธรรมนูญปี 2560 คือนำคะแนนบัตรส.ส.เขตของทุกพรรครวมกัน บวกด้วยคะแนนบัตรเลือกพรรคของทุกพรรครวมกัน แล้วหารด้วย 500 จะได้คะแนนเฉลี่ยต่อส.ส. 1 คน จากนั้นนำคะแนนเขตของแต่ละพรรค บวกด้วยคะแนนพรรคของแต่ละพรรค แล้วหารด้วยคะแนนเฉลี่ยต่อส.ส.จะได้เป็น ส.ส.พึงมีของพรรคนั้นๆ
ส่วนการคิดจำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อให้นำจำนวน ส.ส.พึงมีของแต่ละพรรค ลบด้วยจำนวนส.ส.เขตของแต่ละพรรค จะได้จำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อของแต่ละพรรค การคิดส.ส.บัญชีรายชื่อจะไม่มีการบังคับว่าจะต้องได้ส.ส.ขั้นต่ำ 1% หลังจากคิด ส.ส.บัญชีรายชื่อเต็มตามคะแนนเต็มแล้ว ถ้ามี ส.ส.บัญชีรายชื่อยังไม่ครบ 100 คน เหลือจำนวนเท่าใด ให้ใช้การปัดเศษคะแนนพรรคการเมือง ตามลำดับมากน้อย จนกว่าจะได้ส.ส.บัญชีรายชื่อครบ 100 คน
“สภาพการเมืองปัจจุบันเข้าสู่วงจรอุบาทว์ การเลือกตั้งท้องถิ่นใช้เงินตั้งแต่ 1-20 ล้านบาท การเลือกตั้งส.ส.แบบแบ่งเขต พรรคใหญ่ใช้เงิน 20-50 ล้านบาท บางเขตเป็นกรณีพิเศษถึง 100 ล้านบาท พรรคใหญ่ๆ หลายพรรคทุ่มเงินซื้อส.ส.เข้าสภา ส.ส.ที่ได้มาก็ยกมือตามนายทุนพรรคดังนั้น เรื่องเอกสิทธิ์ส.ส.ในการโหวต เป็นแค่ความฝัน จึงขอเสนอแก้ไขมาตรา 43 ใครซื้อเสียงแล้วถูกจับได้จากกกต. ถ้าพรรคใดซื้อเสียงตั้งแต่ 3 เขตขึ้นไป ต้องลงโทษผู้สมัครและยุบพรรคนั้น” นพ.ระวี กล่าว
จากนั้นเวลา 14.45 น. นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. อภิปรายว่า การเลือกตั้งที่สุจริตเที่ยงธรรม เป็นหัวใจสำคัญ แต่ในสภาพความเป็นจริง ส่วนใหญ่มีการซื้อเสียง ซึ่งกฎหมายระบุให้มีความผิดทั้งผู้ให้และผู้รับ ทำให้ไม่สามารถจับผู้กระทำผิดได้ เพราะคนรับไม่กล้าเป็นพยานซื้อเสียง ดังนั้น ควรแก้กฎหมายให้ผู้รับไม่มีความผิด และสามารถเอาเงินที่รับมา นำมาเป็นหลักฐานพิสูจน์ความถูกผิดของผู้ให้ได้
ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าการแก้ปัญหาซื้อเสียงทำไม่ได้ เพราะที่ผ่านมาก็ซื้อเสียงกันทั้งนั้น ดังนั้นถ้าทำไม่ได้ ก็ให้ยกเลิกเลยว่าซื้อเสียงไม่ผิด ให้แต่ละคนมีจิตสำนึกเอง อยากเลี้ยง อยากแจกเงินใครทำ โดยขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของประชาชนในการเลือกส.ส. และควรยกเลิกการห้ามมีมหรสพระหว่างหาเสียง อย่าไปสร้างเงื่อนไขมาก ควรเป็นร่างที่อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง
