สมาคมทนายความฯ และพรรคไทยสร้างไทย นำ 7 แสนรายชื่อประชาชน ฟ้องป.ป.ช. ตรวจสอบ ประยุทธ์ ละเว้นหน้าที่จัดการแก้โควิด-19 ล้มเหลว
เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 1 มี.ค.2565 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส ผอ.กองการสื่อสาร พรรคไทยสร้างไทย และคณะ เข้ายื่นหนังสือ พร้อมนำ 700,000 รายชื่อของประชาชนที่ร่วมลงชื่อฟ้องรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
กรณีมีพฤติการณ์ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ บริหารจัดการโควิดผิดพลาด จนทำให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตของประชาชน และมีพฤติการณ์จัดหาวัคซีนโควิดที่มีประสิทธิภาพต่ำในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด อันเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและกฎหมาย เพื่อให้ป.ป.ช.ตรวจสอบการปฎิบัติหน้าที่ของพล.อ.ประยุทธ์ ในเรื่องดังกล่าว
นายนรินท์พงศ์ กล่าวว่า เราเคยฟ้องเรื่องนี้ต่อศาลอาญาคดีทุจริต และประพฤติมิชอบกลาง แต่ประธานศาลอุทธรณ์มีคำสั่งวินิจฉัยว่า คดีนี้ไม่อยู่ในอำนาจของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติไม่ชอบ ศาลอาญาฯ จึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบ
เมื่อศาลระบุว่า เรื่องนี้เป็นอำนาจหน้าที่ของป.ป.ช. เราจึงนำมายื่นตามที่ศาลแนะนำ ซึ่งการที่ศาลจำหน่ายคดี ไม่ได้แปลว่าศาลยกฟ้อง เพียงแต่เราต้องยื่นให้ถูกหน่วยงานที่รับผิดชอบ ฉะนั้น หน้าที่ของป.ป.ช.จะต้องค้นหาไต่สวนตามกระบวนการ และขอให้ทำหน้าที่อย่างสุจริต โปร่งใส ไม่ต้องเกรงกลัวต่ออิทธิพลใดๆ และต้องยอมรับว่าการบริหารงานด้านสาธารณสุขในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ บกพร่อง ล้มเหลวมาก
นายนรินท์พงศ์ กล่าวอีกว่า เรามั่นใจว่าเรามีข้อมูลที่ดี ฟ้องนายกฯได้ ดังนั้น อยากให้ป.ป.ช.ที่มีอำนาจเต็มที่ได้ทำหน้าที่ ส่วนผลจะออกมาอย่างไร ประชาชนรออยู่ ซึ่งเมื่อความผิดมันเกิดแล้ว เหตุการณ์จะผ่านไปอย่างไร การกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่รัฐก็ต้องถูกดำเนินคดี
ด้านนายตรีรัตน์ กล่าวว่า ตั้งแต่โควิดระบาดรอบแรก เชื่อว่าเราทุกคนตั้งคำถามถึงประสิทธิภาพของวัคซีน ตามรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่ารัฐบาลต้องจัดหาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ ดังนั้น เราจึงมาเป็นคนกลางเปิดแคมเปญล่ารายชื่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดนี้ และประชาชนก็เห็นด้วยให้เรามาฟ้องรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ว่าบกพร่องต่อการบริหารงานหรือไม่
