เสธ.ทร.ย้ำ กองทัพเรือต้องมี เรือดำน้ำ ตามยุทธศาสตร์ ยืนยันกับจีน ขอสเปกเดิมตามสัญญา เครื่องยนต์ MTU 396 ไม่น้อยใจถูกฝ่ายค้านโจมตี ต้องสู้ต่อไป
เมื่อเวลา 11.50 น. วันที่ 3 มี.ค.2565 ที่ท่าเรือแหลมเทียน การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี พล.ร.อ.เถลิงศักดิ์ ศิริสวัสดิ์ เสนาธิการทหารเรือ ในฐานะประธานคณะกรรมการดำเนินงานโครงการจัดหาเรือดำน้ำ กล่าวถึงปัญหาเรื่องเครื่องยนต์เรือดำน้ำ ว่า จะทำให้ดีที่สุด และเเจ้งทางฝ่ายจีนไปว่าขอยืนยันตามสัญญาทุกประการ เพื่อคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติและกองทัพเรือเป็นสำคัญ ยืนยันจะทำให้ดีที่สุด
เมื่อถามว่าถ้ากองทัพเรือยืนยันเครื่องยนต์ MTU แต่ทางเยอรมันไม่ขายให้จีน ได้เตรียมทางออกไว้อย่างไร เสนาธิการทหารเรือ กล่าวว่า เรายืนยันกับทางจีนไปว่าเราปฏิบัติตามสัญญา ก็คงต้องไปเข้าสู่ฝั่งจีน
เมื่อถามต่อว่าถ้าเครื่องยนต์เป็นการผลิตของจีน แต่สเปกใกล้เคียงกัน จะยอมรับได้หรือไม่ เสนาธิการทหารเรือ กล่าวย้ำว่า ยืนยันไปแล้วว่าต้องเป็น MTU 396
เมื่อถามถึงกรณีฝ่ายค้านระบุ บริษัท csoc จากจีนส่งผู้จัดการโครงการและผู้บริหาร 4 คนมาคุมงานก่อสร้างท่าจอดเรือดำน้ำ แต่พบข้อมูลว่าเป็นครูสอนภาษาจีนนั้น พล.ร.อ.เถลิงศักดิ์ ย้ำว่าเป็นไปตามที่โฆษกกองทัพเรือชี้แจงไปแล้ว ขอไม่ให้ข่าวซ้ำ โดยมีนาย Lang Qingxu เป็นผู้บริหารโครงการ และมี นายจักรพงษ์ วงศ์ธนปกรณ์ เป็นวิศวกรโครงการ ส่วนบุคคลอื่นๆ ไม่เกี่ยวข้อง
ต่อข้อถามว่าหากฝ่ายจีนดำเนินการไม่ได้ สามารถเรียกค่าปรับได้หรือไม่ เสนาธิการทหารเรือ กล่าวว่า อยู่ในสัญญาเรียบร้อย แต่ยังไม่ไปถึงขั้นนั้น ขอให้ใจเย็นๆ พร้อมยอมรับปัจจุบันสัญญาการส่งมอบได้เลื่อนออกไปเป็นเดือนพฤษภาคม ปี 2567 เนื่องจากปัญหาโควิดที่เมืองอู่ฮั่น ซึ่งขอเลื่อนมา 6 เดือนแล้ว
เมื่อถามว่า ถ้ามีการขอเลื่อนไปเรื่อยๆ จะมีแผนรองรับอย่างไรเพราะเป็นเรือดำน้ำลำแรกที่จัดซื้อ พล.ร.อ.เถลิงศักดิ์ กล่าวว่า เราพยายามแก้ไขปัญหาให้ดีที่สุด เราอยากได้เรือดำน้ำมาใช้เพราะเป็นยุทธศาสตร์ของกองทัพเรือ ซึ่งยุทธศาสตร์ของชาติต้องมีเรือดำน้ำ
เมื่อถามว่าถ้าจีนเสนอเรือดำน้ำมือ 2 มาให้จะพิจารณาอย่างไร เสนาธิการทหารเรือ กล่าวว่า ยังไม่ทราบตรงนี้เพราะเป็นแค่ข่าว ยังไม่ได้รับทราบอย่างเป็นทางการจากฝ่ายจีน ส่วนที่ฝ่ายค้านโจมตีเรื่องเรือดำน้ำบ่อยครั้ง ตนมองว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ
Advertisement
ผู้สื่อข่าวถามว่าน้อยใจหรือไม่ที่การซื้อเรือดำน้ำต้องเจออุปสรรค พล.ร.อ.เถลิงศักดิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมชาติ เราคงน้อยใจไม่ได้ ต้องสู้ต่อไปเพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ของชาติและยุทธศาสตร์กองทัพเรือ
เมื่อถามว่ามีโอกาสที่จะยกเลิกการซื้อเรือดำน้ำหรือไม่ เสนาธิการทหารเรือ กล่าวว่า เป็นเรื่องอนาคต ฝ่ายไทยและฝ่ายจีนคงต้องมาพูดกันว่าจะแก้ปัญหาตรงนี้อย่างไร ถ้าถามว่ากองทัพเรืออยากได้เรือดำน้ำหรือไม่ เราอยากได้เรือดำน้ำแน่นอน 100% ส่วนจะอยากได้แบบไหนก็ต้องตอบว่า อยากได้ตามสัญญาที่ลงนามไว้ทั้ง 2 ฝ่าย
ส่วนปัญหาเรื่องเครื่องยนต์จะทำให้ล่าช้าอีกหรือไม่ก็ต้องรอดูต่อไป แต่ในภาพรวมการต่อเรือดำน้ำ คืบหน้าไปกว่า 50% แล้ว ส่วนที่ฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตในการก่อสร้างท่าจอดเรือดำน้ำ คงไม่มีผลกระทบอะไร
