มติ UN สมัยพิเศษ 141 ประเทศประณามรัสเซียบุกยูเครน มีแค่ 5 ชาติค้าน รัสเซีย เบลารุส ซีเรีย เกาหลีเหนือ เอริเทรีย อีก 35 ชาติงดออกเสียง นำโดยจีน อินเดีย ปากีสถาน อิรัก อิหร่าน เวียดนาม ลาว ฯลฯ

ข่าวดี ผู้แทนไทยอยู่ใน 141 ประเทศ แม้ประยุทธ์บอก “เป็นกลาง” ยุโรปไม่รู้ว่าไทยรัสเซียมีความสัมพันธ์ยาวนาน (สมัยราชวงศ์โรมานอฟมั้ง) เฒ่าดอนก็บอกไทยนี้รักสงบ ไม่ชอบความวุ่นวาย ไม่เลือกข้าง

ไม่เลือกข้างระหว่างผู้รุกรานกับผู้ถูกรุกราน? จะได้อย่างไร กฎบัตรสหประชาชาติยึดหลักเอกราชอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน ถ้าไม่มีกฎข้อนี้ ประเทศใหญ่ก็รุกรานคุณได้ตามอำเภอใจ

ปรบมือให้ผู้แทนไทยและกระทรวงต่างประเทศ ที่แสดงจุดยืนชัดเจน ทำให้ “ขวาไทย” เงิบ เพราะบรรดาสื่อเชียร์ลุง เพจ IO สลิ่มเกลียดสามกีบ ฯลฯ พากันด่า ’เมกาเชียร์ปูตินพอเพียง ตัดต่อภาพ faked ส่งต่อในกลุ่มไลน์สวัสดีวันจันทร์ตื้นตันเป็นล้าน

พวกคนไทยหัวใจปูตินยังไม่วายแถว่า 141 ประเทศมีประชากรไม่ถึงครึ่งโลก ทั้งที่คนรัสเซียคนจีนไม่ต้องการสงครามก็ถมไป แต่ประท้วงไม่ได้

บางคนย้อนอเมริกาเคยบุกอิรัก ใช้ข้อมูลเท็จอ้างซัดดัมมีอาวุธทำลายล้าง ใช่เลย ไอ้กันผิด แต่การบอกว่าถ้าอเมริกาทำได้รัสเซียต้องทำได้ โลกนี้ก็ฉิบหาย รุกรานกันไม่หยุด ต้องเข้าใจว่ายุคนั้นไอ้กันรอดไปเพราะเงื่อนไขหลายอย่าง (ทั้งที่มีคนประท้วงคัดค้านจำนวนมาก) ไม่ใช่แค่ความมีอิทธิพลใน UN แต่ยังใช้สื่อทำ propaganda ได้ผล อาศัยคนทั้งโลกกลัวก่อการร้าย แถมซัดดัมเป็นเผด็จการปิดกั้นข้อมูลข่าวสาร ชาวโลกไม่รู้ว่าข้างในอิรักเป็นอย่างไร

รัสเซียบุกยูเครนอย่างอุกอาจ ไม่มีเหตุผลไม่สนโลกไม่แคร์สื่อ ในโลกยุคปัจจุบันที่เชื่อมถึงกันหมด ด้วยเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ยูทูบ TikTok คนยูเครนใช้มือถือเครื่องเดียวก็แพร่ภาพแพร่คลิปเป็นไวรัล ภาพพ่อกอดลูกก่อนไปเป็นทหาร ภาพผู้หญิงช่วยกันทำระเบิดขวด ภาพ ส.ส.หญิงถือปืน ภาพประธานาธิบดี “ตัวตลก” ประกาศไม่หนี ฯลฯ เหล่านี้คือการสื่อสารที่ทรงพลัง สร้างความสะเทือนใจให้พลเมืองโลกหลายพันล้าน (ซึ่งอิรักไม่มี ทั้งด้วยเทคโนโลยีเมื่อยี่สิบปีก่อนและด้วยความเป็นเผด็จการปิดข้อมูลข่าวสาร)

ไม่ว่าจะยึดยูเครนได้หรือไม่ก็ตาม ปูตินแพ้แล้ว แพ้ความชอบธรรม แพ้สงครามสื่อ แพ้โลกโซเชี่ยล ไม่ว่าชนะหรือแพ้ทางการทหาร ปูตินก็กลายเป็นปีศาจร้าย ที่จะถูกบอยคอตถูกต่อต้านกระทั่งลงจากอำนาจ

ปูตินไม่ได้แพ้อเมริกา ไม่ใช่แพ้ยูเครน แต่กระแสที่เห็นอยู่คือ พลเมืองโลกหลายพันล้าน แม้แต่คนรัสเซียเอง ล้วนไม่ต้องการสงคราม คัดค้านประณามการรุกรานเพื่อนบ้าน ทำลายความสงบสุขของโลก ที่กำลังเชื่อมถึงกันด้วยเทคโนโลยีสื่อสาร การค้าการลงทุน ท่องเที่ยว บันเทิง ยกระดับคุณภาพชีวิต

ค.ศ.นี้ ถ้าอเมริการุกรานใครอย่างที่บุกอิรัก อัฟกานิสถาน ก็จะถูกประณามเหมือนกัน เพราะพลังอำนาจในโลกเริ่มเคลื่อนย้ายไปสู่ประเทศประชาธิปไตยขนาดกลางที่เข้มแข็งทางเศรษฐกิจ เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน ออสเตรเลีย แคนาดา เกาหลี ญี่ปุ่น เป็นแกนกลางให้ประเทศเล็กมาร่วมมือกัน

ความพ่ายแพ้ทางการเมือง ทางความชอบธรรมนี่เอง ทำให้โลกตะวันตกสามารถใช้มาตรการบอยคอตรัสเซียรุนแรงอย่างไม่เคยมีมาก่อน เพราะรัฐบาลแต่ละประเทศได้เสียงเชียร์จากประชาชน ได้ประเทศเล็กสนับสนุน ตัดขาดรัสเซียทางการเงินการค้าการลงทุนการติดต่อสื่อสารกระทั่งบันเทิงกีฬา ขณะที่ยูเครนรับทหารอาสา มีคนสมัครล้นหลาม ได้เงินบริจาคทั่วโลก จากแดจังกึมถึง X Japan

พวกเชียร์ปูตินยังปากแข็งว่าไม่กลัวบอยคอต เศรษฐกิจรัสเซียพึ่งตัวเองได้ แต่นี่เป็นการบอยคอตที่แรงกว่าคาดคิด ค่าเงินหายไป 1 ใน 3 ดอกเบี้ยขึ้นเป็น 20% การเผด็จศึกยูเครนก็ไม่ง่าย มีแต่ติดกับ

ข้อพึงสังเกตคือ ความแข็งกร้าวบุ่มบ่ามของปูติน ทำให้ญาติมิตรอำนาจนิยมตกที่นั่งลำบากไปด้วย เช่น จีนก็อึกอัก ไม่สามารถยอมรับการบุกยูเครน (ซึ่งค้าขายกับจีนเป็นอันดับหนึ่ง) เพียงงดออกเสียง เพราะจีนอ้างมาตลอดว่าเคารพหลักเอกราชอธิปไตย ไม่รุกรานประเทศอื่น (แต่ไต้หวันเป็นของกู) เจอกระแสโลกอย่างนี้ จีนคงร้องในใจว่า อิ๊บอ๋าย ยึดไต้หวันคืนไม่ง่ายแน่

มติ UNGA เหมือนเกิดการแบ่งค่าย 5+35 เอียงข้างรัสเซีย แต่ส่วนใหญ่เป็นประเทศที่พึ่งจีนพึ่งรัสเซียและอยู่ห่างไกล อินเดีย ปากีสถาน ก็ไม่มีกำลังทางเศรษฐกิจพอช่วยรัสเซียจากการบอยคอต เหลือจีนเท่านั้น แต่จีนก็ต้องระวังตัว ออกหน้าเปิดคางเดี๋ยวเจอทัวร์ลง

สงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้เห็นการเมืองโลกมิติใหม่ คือไม่ได้ชี้ขาดด้วยอาวุธ แต่ชี้ขาดด้วยความชอบธรรม สื่อสังคมออนไลน์กลายเป็นอาวุธทรงพลัง นำภาพนำคลิปการสู้รบ ความสูญเสีย การเสียสละ มาถึงบ้านถึงที่ทำงาน ทำให้พลเมืองโลกเกิดฉันทามติ ไม่เอาสงคราม ต่อต้านการรุกราน ส่งพลังทั้งทางตรงทางอ้อมไปช่วยยูเครน

โลกกำลังเปลี่ยนไป ไม่ใช่แค่การต่อสู้ระหว่างมหาอำนาจ ประชาคมโลก พลเมืองโลก เข้ามามีส่วนสร้างฉันทามติมากขึ้น ตั้งแต่เรื่องสิ่งแวดล้อม ความเหลื่อมล้ำ ไปจนสงคราม

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน