FootNote:สัญญาณหนุน สกลธี ภัททิยกุล ส่งตรงจาก สุเทพ เทือกสุบรรณ
การออกโรงมาให้กำลังใจ นายสกลธี ภัททิยกุล ของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ มีความหมายอย่างลึกซึ้งในทางการเมือง เท่ากับเป็นการส่งสัญญาณไปยัง “มวลมหาประชาชน”
เพราะกำลังใจจาก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ มิได้ดำเนินไปในลักษณะอันสะท้อนผู้นำด้านจิตวิญญาณจากพรรครวมพลังประชาชาติไทย หากแต่มาจาก “กปปส.”อย่างเต็มเปี่ยม
นี่คือมัดหวายอันผนึกพลังอย่างแข็งแกร่ง โดยมีรากฐานจากการที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อยู่ในฐานะเป็นเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ อันมากด้วยบารมี
นี่คือสะพานเชื่อมอย่างมีนัยสำคัญในเมื่อ นายสกลธี ภัททิยกุล คือ ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร อันเป็นฐานสำคัญของการเคลื่อนไหวในนาม “มวลมหาประชาชน”
อย่าได้แปลกใจหาก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ จะเน้นบทบาทที่ นายสกลธี ภัททิยกุล และคณะมีต่อมาตรการ “ปิดกรุงเทพมหานคร”อย่างทรงพลังในเดือนมกราคม 2557
นั่นคือฐานอันสร้างความมั่นใจให้กับรัฐประหาร 2557 ชัดเจน
หากมิใช่เพราะบทบาทในฐานะกปปส. นายสกลธี ภัททิยกุล และคณะอันได้แก่ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ คงไม่ได้รับการปูนบำเหน็จภายหลังการรัฐประหาร
ทั้งยังกลายเป็นแกนหลักสำคัญในการก่อตั้งและขับเคลื่อนอยู่ในพรรคพลังประชารัฐ
บทบาทที่ว่านั้นคือ บทบาทในการ “ชัตดาวน์” กรุงเทพมหานคร
ที่สามารถทำได้เพราะว่าทั้ง นายสกลธี ภัททิยกุล นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ล้วนเติบใหญ่ในพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร
การเสนอตัวเข้าชิงตำแหน่งเพื่อเป็น “ผู้ว่าฯกทม.”จึงสัมพันธ์กับกระบวนการ “ชัตดาวน์”ก่อนรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557 ชัด
ต้องยอมรับว่าการตัดสินใจของ นายสกลธี ภัททิยกุล หลังจากอยู่ในตำแหน่งรองผู้ว่าฯกทม.สอดรับกับสัญญาณอันส่งมาจาก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ
เฉพาะหน้าคือสัญญาณต่อสายถึง “มวลมหาประชาชน” ฟื้นรำลึก ย้อนความทรงจำและแปรพลังที่เคย “ชัตดาวน์”กรุงเทพมหานคร เมื่อมกราคม 2557 มาเป็นคะแนนเสียงในเดือนพฤษภาคม 2565
สร้างความมั่นคงยั่งยืนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
