ชาวบ้านเครือข่ายผู้ป่วยได้รับผลกระทบจากเหมืองทองอัครา ร้องฝ่ายค้าน เบรกรัฐเปิดเหมืองรอบใหม่ ชลน่าน ลั่นพร้อมนำปัญหา ลุยซักฟอกรัฐบาล
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 11 มี.ค.2565 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) เครือข่ายผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากการทำเหมืองแร่ทองคำพิจิตร-เพชรบูรณ์กว่า 30 คน เข้ายื่นหนังสือร้องเรียน ต่อตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ (ปช.) นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ (พช.) นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.)และ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โฆษกพรรคเพื่อไทย
น.ส.พรีมสินี สินทรธรรมทัช ผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชน ตัวแทนจากเครือข่ายฯ กล่าวว่า วันนี้เรานำข้อมูลของผลกระทบด้านสุขภาพและด้านอื่นๆ ที่เกิดขึ้นกับประชาชน ที่อยู่ในพื้นที่รอบเหมืองทองคิงส์เกต มาให้กับพรรคฝ่ายค้าน เพื่อนำไปใช้ประกอบการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนพ.ค.นี้ และให้หาทางช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ เพราะตั้งแต่เปิดเหมืองทองในปี 2544 ก่อนมีคำสั่งให้หยุดการทำเหมืองในวันที่ 1 ม.ค.60 ชาวบ้านที่อยู่โดยรอบของพื้นที่ได้รับผลกระทบจากการทำเหมือง ไม่ว่าด้านสิ่งแวดล้อม สุขภาพ วิถีชีวิตและการประกอบอาชีพ และผลกระทบจากการต่อสู้ดำเนินคดี ปัญหาเหล่านี้ยังไม่ได้รับการแก้ไข
โดยเมื่อเดือน พ.ค.2557 ตนและชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบเหมือง ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนไปยังสำนักนายกฯ ส่งผลให้มีการส่งทีมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างทั้งปัสสาวะ เลือด น้ำและดิน ซึ่งรพ.รามาธิบดี รายงานผลการตรวจด้านสุขภาพของประชาชนในพื้นที่รอบเหมืองแร่ทองคำ 731 คน พบโลหะหนักในร่างกายเกินค่าปกติ 401 ราย นอกจากนี้ชาวบ้านยังตรวจเลือดอีกหลายครั้ง ซึ่งผลการตรวจเลือดยังพบโลหะหนักค่าเกินปกติในร่างกายเช่นเดิม
ชาวบ้านเหยื่อเหมืองทองร้องฝ่ายค้าน
น.ส.พรีมสินี กล่าวต่อว่า เครือข่ายฯ ขอเรียกร้องให้เพิกถอนการต่ออายุประทานบัตรเหมืองและใบประกอบโลหะกรรม รวมถึงระงับการเปิดพื้นที่สัมปทานแปลงใหม่เอาไว้ก่อน จนกว่าจะจัดทำการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและสุขภาพ (EHIA) ทั้งในส่วนของเหมืองแร่ โรงประกอบโลหกรรม รวมถึงระงับการเปิดพื้นที่สัมปทานแปลงใหม่เอาไว้ก่อน จนกว่าจะดำเนินการ ดังนี้
1.จัดทำการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและสุขภาพ (EHIA) ทั้งในส่วนของเหมืองแร่และโรงประกอบโลหะกรรม 2.ให้ตรวจสุขภาพของประชาชนโดยรอบพื้นที่อย่างกว้างขวาง ละเอียดถี่ถ้วน เพื่อหาสารพิษและโลหะหนักที่สัมพันธ์กับการทำเหมืองทองคำ เพื่อเป็นฐานข้อมูลก่อนจะอนุญาตให้กลับมาเปิดเหมืองใหม่ 3.ให้จัดทำพื้นที่แนวกันชนและพื้นที่ปลอดภัยจากผลกระทบด้านต่างๆ โดยเหมืองจะต้องอยู่ห่างจากชุมชนในรัศมีไม่ต่ำกว่า 5 กิโลเมตร
4.สอบวินัยและดำเนินคดีต่ออธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) และข้าราชการ กพร. ตามประมวลกฎหมายอาญา 157 และฐานความผิดอื่นๆ ก่อน โทษฐานที่อนุญาตประทานบัตร ใบอนุญาตประกอบโลหะกรรม อาชญาบัตรพิเศษและใบอนุญาตที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ให้บริษัทกลับมาเปิดเหมืองใหม่ โดยไม่ปฏิบัติตามกฎหมายแร่ฉบับใหม่ โดยเฉพาะกรณีไม่จำแนกแยกแยะเขตแหล่งแร่ เพื่อการทำเหมืองออกจากพื้นที่ที่ควรสงวนหวงห้ามไว้ตามมาตรา 17 วรรคสี่ และมาตราที่เกี่ยวข้องอื่นๆ
5.นำข้อมูลผลกระทบที่เกิดขึ้นไปอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เพื่อให้รัฐบาลรับผิดชอบกับการกระทำของตนเอง
ด้านนพ.ชลน่าน กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ นอกจากทำลายประเทศแล้วยังทำลายพวกเรา ใช้พวกเราเป็นเครื่องมือ ที่ผ่านมาปิดเหมืองทองโดยอ้างเรื่องปัญหาสุขภาพ ปัญหาโลหะหนัก แต่กลับไปใช้กฎหมายพิเศษ ใช้คำสั่ง คสช.ซึ่งทั่วโลกไม่ยอมรับไปปิดเหมือง ทั้งที่ใช้กฎหมายปกติได้ สุดท้ายต้องกลับมาเปิดเหมือง เพราะมีปัญหาการฟ้องร้อง กลัวสู้เขาไม่ได้ รัฐบาลไม่มีความจริงใจ
วันนี้พรรคร่วมฝ่ายค้านยินดีรับข้อร้องเรียน เพื่อส่งต่อปัญหาไปยังกรรมาธิการ(กมธ.) ที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบ และจะนำปัญหาดังกล่าวไปอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลต่อไป
