ก้าวไกล ไม่หวั่นโดนยุบพรรค หลังกกต.ส่งหนังสือเรียกแจงปมอภิปรายงบสถาบัน เหตุเนื้อหาไม่ชัดเจน ยันลุยทำหน้าที่ ส.ส. ตรวจสอบงบฯต่อแน่นอน

เมื่อเวลา 10.10 น. วันที่ 29 มี.ค.2565 ที่อาคารอนาคตใหม่ นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองเลขาธิการพรรค น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ร่วมกันแถลงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทำหนังสือถึงนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เพื่อเชิญไปให้ถ้อยคำกรณี น.ส.เบญจา อภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565

นายชัยธวัช กล่าวว่า สืบเนื่องจากมีผู้ยื่นคำร้องต่อกกต.ว่าการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบปี 65 เมื่อเดือน ส.ค.2564 ของ ส.ส.พรรคก้าวไกล รวมถึงการเผยแพร่เนื้อหาการอภิปราย ถือเป็นการกระทำอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามมาตรา 92(2) แห่งพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ซึ่งกกต.สามารถยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคได้ หากรวบรวมข้อเท็จจริงและมีหลักฐาน อันควรเชื่อได้ว่ามีการกระทำดังกล่าวจริง

โดยวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการรวบรวมข้อเท็จจริงของ กกต. ได้ทำหนังสือถึงนายพิธา เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงที่ถูกร้อง และเชิญไปให้ถ้อยคำในวันนี้ (29 มี.ค.) แต่นายพิธาติดเชื้อโควิด-19 เป็นครั้งที่ 2 จึงแจ้งเลื่อนการไปให้ถ้อยคำออกไปก่อน และจะไปให้ถ้อยคำโดยเร็วหลังจากหายดีแล้ว

นายชัยธวัช กล่าวต่อว่า ตนในฐานะเลขาฯ พรรค ขอชี้แจงว่า 1.ตามบันทึกการแจ้งข้อเท็จจริงและรับทราบข้อเท็จจริงที่ กกต. ได้ส่งมาถึงนายพิธา เพื่อให้โต้แย้งประเด็นที่ถูกร้องนั้น ได้ระบุถึงเนื้อหาการอภิปรายงบส่วนราชการในพระองค์ของน.ส.เบญจา เมื่อวันที่ 21 ส.ค. 2564 รวมถึงการนำข้อมูลการอภิปรายดังกล่าว ไปเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊กและเว็บไซต์ของพรรค แต่กลับไม่ระบุให้ชัดเจนว่า ข้อความหรือการกระทำใดเข้าข่าย ตามมาตรา 92(2) เราจึงเห็นว่าการแจ้งข้อเท็จจริงดังกล่าว จึงมีแต่ความคลุมเครือไม่ชัดเจน ทั้งที่ข้อกล่าวหาร้ายแรงถึงขั้นยุบพรรคได้

2.พรรคยืนยันว่าการอภิปรายงบฯดังกล่าว เป็นการทำหน้าที่ตามปกติที่ผู้แทนราษฎรพึงกระทำในการตรวจสอบและเสนอแนะ เพื่อให้การจัดสรรงบในทุกหน่วยรับงบประมาณ มีความโปร่งใส เหมาะสมและเป็นประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน เรามั่นใจว่าการกระทำของ ส.ส.พรรคก้าวไกล ไม่ใช่การกระทำอันเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยฯ ตามที่ถูกกล่าวหา และไม่เป็นเหตุที่นำไปสู่การยุบพรรคได้

ขณะที่ น.ส.เบญจา กล่าวว่า ตนขอยืนยันว่ากระบวนการพิจารณางบประมาณประจำปีและหน้าที่อนุมัติงบ เป็นหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ ที่สภาจะมีส่วนร่วมพิจารณา ตรวจสอบ แก้ไขและปรับปรุงให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน การที่ กกต.เชิญไปชี้แจงนั้น ตนยังมั่นใจในกรณีนี้และในฐานะส.ส.จะยังทำหน้าที่ตรวจสอบงบประมาณต่อไป

ด้านนายรังสิมันต์ กล่าวว่า ทั้งหมดนี้คือการทำให้ ส.ส. และสภา ไม่สามารถทำหน้าที่อย่างที่ควรจะเป็น การที่เราอภิปรายว่าควรจะตัดลดงบอย่างไร นี่คืออำนาจที่เรามี ถ้าไม่สามารถทำแบบนี้ได้ เราจะมีสภาและส.ส.ไว้ทำไม เมื่อพยายามจะทำก็โดนร้อง โดนดำเนินคดี เพื่อนำไปสู่การยุบพรรค นี่คือการสร้างความกลัว ไม่ใช่แค่พรรคก้าวไกล แต่แสดงไปถึงส.ส.ทุกคน พรรคก้าวไกลจะไม่ยอมให้เกิดความกลัวนี้ต่อไป จะยังคงเดินหน้าทำหน้าที่เพื่อเป็นส.ส.ของประชาชนอย่างแท้จริง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน