ศาลอาญา ยกฟ้อง 2 เเนวร่วมเสื้อเเดง ถูกฟ้องปาระเบิด 3 สำนวน “ทนายวิญญัติ” เผยไม่มีประจักษ์พยานเห็นในที่เกิดเหตุ เตรียมยื่นประกันจำเลยที่ 2 ติดคดีอื่น

วันที่ 30 มี.ค.65 ที่ห้องพิจารณาคดี 802 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก คดีหมายเลขดำที่ อ2613/2564
คดีหมายเลขดำที่ อ2614/2564 คดีหมายเลขดำที่ อ2615/2564 ที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายเสกสรร วรปีติเจริญกุล ,นายกิตติศักดิ์ สุ่มศรี เเนวร่วม นปช.เป็นจำเลยที่ 1-2

โดยคำฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่าเมื่อวันที่ 25 ก.ค.53 จำเลยทั้งสองร่วมกันมีระเบิดแสวงเครื่อง 1 ลูกโดยระเบิดประกอบเป็นระบบไฟฟ้าโดยใช้นาฬิกาปลุกแบบคอร์ทเป็นตัวจุดระเบิดกับลูกระเบิดขว้างชนิดสังหาร นำไปวางไว้ที่บริเวณที่ทิ้งขยะใกล้กับป้ายรถเมล์หน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ราชดำริ มีผู้เสียชีวิต 1 คน และบาดเจ็บหลายคน

ส่วนอีกสำนวน 3 เม.ย.53 เป็นเหตุระเบิดเเสวงเครื่องบริเวณทางเท้าหน้าบ้านเลขที่ 260-262 ถนนหลานหลวง เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพ เเละวันเดียวกัน บริเวณหน้าองค์การโทรศัพท์ฯ ถนนกรุงเกษมแขวงวัดโสมนัสเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ

นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ กล่าวภายหลังฟังคำพิพากษา ว่าในส่วน 3 คดี ในวันนี้ ศาลได้อ่านคำพิพากษาคดีทั้ง 3 สำนวน ซึ่งเดิมศาลมีคำสั่งรวมสำนวนทั้งสามเรื่องเข้าด้วยกัน เพื่อความสะดวกในการพิจารณาคดี

โดยศาลมีคำพิพากษายกฟ้องทั้ง 3 สำนวน เนื่องจากโจทก์ไม่มีพยานปากใดเห็นจำเลยทั้งสองอยู่ในที่เกิดเหตุทั้ง 3 แห่ง โจทก์ไม่ได้นำสืบให้เห็นว่าลักษณะการต่อวงจรระเบิดที่ตรวจพบในรถฮอนด้าซีวิคมีวงจรเหมือนกับระเบิดทั้งสามคดีนี้

โดยนายกิตติศักดิ์จำเลยที่ 3 จะยังไม่ได้รับการปล่อยตัวในวันนี้ เพราะยังเหลือเพียงอีก 1 คดี ที่ฟ้องมาล่าสุด ซึ่งทนายจำเลยจะหาทางรวบรวมหลักทรัพย์เพื่อประกันตัวต่อไป

ทั้งนี้ นายกิตติศักดิ์ ถูกคุมขังอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2557รวมทั้ง เคยถูกฟ้องในคดีชายชุดดำ ซึ่งที่ศาลฎีกามีคำพิพากษายกฟ้องฐานความผิดร่วมกันครอบครองอาวุธสงครามเหตุเกิดวันที่ 10เม.ย.53 ไปแล้วนั้น แต่ไม่ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำ เนื่องจากต่อมานายกิตติศักดิ์ กลับถูกอัยการนำตัวฟ้องว่าเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ระเบิดทั้ง 3 แห่งตามคดีนี้

และเขายังเป็นคนเดียวที่ถูกดำเนินคดีมากที่สุด ล่าสุด นายกิตติศักดิ์ ถูกฟ้องในคดีพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน(ทหาร ศอฉ.) ที่แยกคอกวัว ว่าใช้อาวุธปืนสงครามก่อเหตุพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน เมื่อวันที่ 10เม.ย. 53 ซ้ำอีกคดีหนึ่ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน