“ชัชชาติ” ลุยหาเสียง 5 ตลาด เล็งเปิดแอพตลาดออนไลน์ ลดค่าที่แพง-การจราจร จัด 12 เทศกาลกระตุ้นเศรษฐกิจ ย้ำรอบที่ 250 ไม่เกี่ยวพรรคการเมืองไหน

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 2 เม.ย.65 ที่ตลาดประชานิเวศน์ เขตจตุจักร นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่ากรุงเทพมหานคร หมายเลข 8 ลงพื้นที่หาเสียงพบปะประชาชนพ่อค้าแม่ค้าในตลาด พร้อมรับฟังปัญหาเงินเฟ้อ ของแพง และการปรับตัวของผู้ค้าในวิกฤตโควิด เรียกได้ว่าจะเป็นการหาเสียงใน 1วัน กับ 5 ตลาด ทั้งตาด อ.ต.อ. เจเจมอลล์ ตลาดนัดจตุจักร และ FLEA MARKET สวนหลวงสแควร์

โดยบรรยากาศได้รับการต้อนรับจากผู้ค้าในตลาดเป็นจำนวนมาก และผู้ที่มาจับจ่ายใช้สอยในตลาดเห็นได้จากการขอถ่ายรูปร่วมและมอบดอกไม้พวงมาลัยให้เป็นกำลัง บ้างก็สะท้อนปัญหาที่ประสบอยู่ให้ได้รับฟัง

จากนั้นนายชัชชาติ เดินทางไปหาเสียงต่อที่ตลาด อ.ต.ก. มีประชาชนผู้ค้าให้ความสนใจและต้อนรับอย่างอบอุ่นทั้งขอถ่ายรูป ให้เซ็นชื่อบนเสื้อให้ และมอบผลไม้ให้รับประทาน

เวลา 10.00 น. นายชัชชาติ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงการลงพื้นที่ในวันนี้ว่า เดินตลาดตั้งแต่เช้าเริ่มที่ตลาดประชานิเวศน์จนมาที่อ.ต.ก.ก็ได้รับการต้อนรับจากคนในตลาดเป็นอย่างดี ต้องบอกว่าตลาดเป็นจุดสำคัญด้วยเรื่องเศรษฐกิจเป็นเรื่องใหญ่ของประเทศ และต้องได้รับการแก้ไขปัญหา

ทั้งนี้ปัญหาของตลาดอีกอย่างหนึ่งป็นเรื่องพื้นที่การค้าขาย ทางกทม.อาจจะจัดทำตลาดออนไลน์ เพื่อลดการจราจร ลดมลพิษ และเรื่องราคาที่ด้วย เราเห็นแอพพลิเคชันที่ตลาดยิ่งเจริญที่เขาทำแล้วน่าสนใจมาก วันนี้กทม.ต้องรับตัวให้ทันโลกออนไลน์มากขึ้น กทม.เราต้องให้เต็มที่กับประชาชนทั้งด้านเศรษฐกิจ สาธารณสุข การศึกษา พร้อมทั้งต้องช่วยลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชนด้วย

กทม.วันนี้ไม่ใช่แค่ต้องกวาดถนน เก็บขยะแล้ว เรื่องการช่วยเหลือความเป็นอยู่ของประชาชนเราต้องเปลี่ยนมุมมองใหม่ เรามีแนวคิดจะให้เป็น 12 เทศกาล 50 เขต แต่ละเขตให้มีอัตลักษณ์เป็นของตัวเอง จากการที่ตนลงพื้นที่ตลาดในหลายเขตเราเห็นจุดเด่นของแต่ละที่ ฉะนั้นกทม.ต้องมองหาและสร้างจุดแข็งของแต่ละพื้นที่ให้ได้ และควรมีการจัดเทศกาลต่างๆในแต่ละเดือน ทั้งดอกไม้ ผลไม้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

นายชัชชาติ กล่าวอีกว่า ตอนนี้เราหาเสียงในทุกช่องทางทั้ง ทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก และคงมีติ๊กต๊อก ซึ่งก็ได้รับเสียงตอบรับอย่างดี อีกส่วนหนึ่งคือการลงพื้นที่ เพราะมีประชาชนบางส่วนที่ไม่ได้เล่นออนไลน์ ฉะนั้นการลงพื้นที่ก็เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งก็ถือเป็นจุดอ่อนของเรา เพราะเราลงสมัครในนามอิสระไม่ได้มีหัวคะแนน มีแต่อาสาสมัครก็จะทำงานแบบงงๆกันอยู่ ทั้งเรื่องการปิดป้ายหาเสียง แต่เชื่อว่าเรามาด้วยความจริงใจ พยายามเข้าถึงประชาชาทุกลุ่ม ดังนั้นก็ต้้องลงพื้นที่ให้เยอะๆขึ้น

อย่างไรก็ตามจะลงแบบอิสระหรือแบบไหนมีจุดอ่อนและจุดแข็งต่างกัน แต่เชื่อว่าเราลงอิสระคงมีคนสงสารเรา ส่วนจุดแข็งเราคือเราคล่องตัว อยากทำอะไรก็ทำ นโยบายออกได้เร็ว ดังนั้นแล้วมองว่าเป็นธรรมดาเรื่องการแข่งขัน แต่เมื่อเราเลือกมาเดินแบบอิสระแล้วก็ต้องอิสระ และขอยืนยันครั้งที่ 250 ว่าเป็นอิสระจริงๆไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองไหน

แต่เรามีเพื่อนอยู่ทุกพรรคทุกกลุ่ม และในอนาคตใครจะได้รับเลือกตั้งเป็นส.ก. เราก็ต้องทำงานกับเขา และถ้าใครจะสนับสนุนเรา เราก็ไม่ได้ไปรังเกียจ เพราะเราอิสระจะไปเล่นตัวได้อย่างไรว่าชอบรือไม่ชอบใคร

จากนั้นนายชัชชาติ เดินทางไปหาเสียงยังเจเจมอลล์ และจะไปร่วมบรรยายพิเศษ “มุมมองขยะ กทม. สู่เส้นทางการหมุนเวียน/เปลี่ยนเมือง” ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ในเวลา 12.30 น.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน