โรมอัดรัฐบาล มั่นใจจากไหน จะกวาด 150 ส.ส. แซะโชว์ผลงาน ยังกะอยู่ในยุคผู้ใหญ่ลี เผยบิ๊กป้อมหาเสียง ลงพื้นที่เปลืองงบประมาณ แจงบิ๊กตู่ ไม่มีผลงานน่าจดจำ
วันที่ 4 เม.ย.2565 นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองเลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จัดโครงสร้างกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) โดยมี 2 นายทหารคนสนิทของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค พปชร. เข้ามาช่วยงาน ทั้งยังประกาศจะกวาดส.ส. 150 ที่นั่ง ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ว่า ตนไม่ทราบว่าพรรคพปชร. จะชนะเลือกตั้งจากอะไร เพราะหากอยู่กับความเป็นจริงและมองสถานการณ์รอบตัว รัฐบาลก็ไม่ได้แก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม
ตนไม่เชื่อว่าพรรคพปชร.จะประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งจากการมีผลงานของตัวเอง แต่จะชนะจากการใช้วิชามาร หรือเทคนิคบางอย่าง เพราะประชาชนเบื่อพรรคพปชร. เต็มทน
เมื่อถามว่ากรณีพล.อ.ประวิตร กำชับให้ส.ส.และรัฐมนตรีของพรรคเร่งประชาสัมพันธ์ผลงานของพรรค ให้ประชาชนรับรู้ถึงความตั้งใจในการทำงาน นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนคิดว่านำเงินไปพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนจะดีกว่า เพราะถ้าประชาชนล้วงกระเป๋าแล้วมีเงิน หรือคุณภาพชีวิตดีขึ้น ประชาชนจะเลือกพรรคพปชร.เอง การนำเงินไปประชาสัมพันธ์ผลงานตัวเองนั้น จะไม่เกิดประโยชน์อะไร และเสียดายภาษีของประชาชนด้วย จึงอยากแนะนำว่าควรใช้เวลาที่เหลือ ซึ่งไม่รู้ว่าเหลืออยู่เท่าไหร่นั้น มาทำงานให้ดีที่สุดดีกว่า
เมื่อถามว่า มีความเห็นต่อแนวคิดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และคนในรัฐบาลที่มักจะสั่งให้ประชาสัมพันธ์ผลงานของรัฐบาลให้ประชาชนรับรู้อย่างไร นายรังสิมันต์ กล่าวว่า คนที่คิดว่าประชาชนจะรับรู้ผ่านการประชาสัมพันธ์ของรัฐบาลนั้น ยังติดอยู่ในโลกเก่า ที่ไม่มีโซเชียลมีเดีย หรือไม่มีเครื่องมือสื่อสารที่มากนัก จึงคิดว่าจะต้องมีแผ่นป้ายจากส่วนกลางไปติดหน้าศาลากลางจังหวัด หรือหน้าหมู่บ้าน
ตนฟังแนวคิดนี้แล้วนึกถึง พ.ศ.2504 ผู้ใหญ่ลีตีกลองประชุม ทั้งที่ความจริง เมื่อรัฐบาลทำงานสำเร็จ ความสำเร็จนั้นจะช่วยประชาสัมพันธ์รัฐบาลให้เอง เพราะจะเกิดการบอกต่อ ซึ่งการบอกต่อในปัจจุบันเกิดขึ้นผ่านโซเชียลมีเดียที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว การประชาสัมพันธ์ ติดบอร์ดตามที่ต่างๆ ผมว่ามันไม่สามารถทำให้ประชาชนเกิดการรับรู้ได้อีกต่อไป
ขอยืนยันอีกครั้งว่า สิ่งที่รัฐบาลควรทำ คือ การทำผลงานให้สำเร็จ การที่พล.อ.ประยุทธ์ สั่งการแบบนี้ หมายความว่า ไม่มีผลงาน จึงไม่มีอะไรให้ประชาสัมพันธ์
เมื่อถามถึงกรณีพล.อ.ประวิตร ลงพื้นที่ในหลายจังหวัด จะถูกมองว่าเป็นการใช้งบประมาณแผ่นดินหาเสียงให้ตัวเองหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนมองเรื่องนี้เป็น 3 ประเด็น คือ 1.เป็นการสิ้นเปลืองเงินที่ใช้ให้คนไปแบกหาม และเตรียมแพทย์พยาบาลให้พล.อ.ประวิตร ที่เป็นคนสูงอายุ และควรพักผ่อนอยู่บ้าน จึงไม่อยากให้ฝืนและควรพอได้แล้ว
2.มีความเป็นไปได้ที่จะใช้เงินจากภาษีประชาชน ซึ่งไม่ใช่เพิ่งจะเกิดขึ้นครั้งแรก เพราะเมื่อครั้งการจัดงานของมูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ยังให้เจ้าหน้าที่รัฐและเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพในการเดินทาง ทั้งที่เป็นเรื่องส่วนตัวของพล.อ.ประวิตร ถ้าพล.อ.ประวิตร อยากหาเสียงล่วงหน้าก็ไม่ควรใช้ทรัพยากรของรัฐ ให้ควักเงินตัวเองจึงจะถือว่าเหมาะสม
3.ถ้าอยากให้พรรคพปชร.ดีกว่านี้ พล.อ.ประวิตร ไม่ควรเป็นหัวหน้าพรรคต่อไป เพราะไม่มีผลงานที่ประชาชนจดจำได้ คือไม่มียิ่งกว่าพล.อ.ประยุทธ์เสียอีก
