จิ๊บ ศศิกานต์ จับมือ นายห้างวินท์ เปิดนโยบาย กรุงเทพเมืองปลอดภัย ชู แก้ปัญหา 3 ระยะ เซอร์ไพรส์ทายาทไอน์สไตน์ โผล่ให้กำลังใจ
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 4 เม.ย.2565 ที่บริษัท เดอะ แพลตฟอร์ม จำกัด น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ ว่าที่ผู้สมัคร ผู้ว่าฯกทม. เบอร์ 16 พร้อมด้วย นายวินท์ สุธีรชัย หัวหน้ากลุ่มใส่ใจ แถลงเปิดตัวนโยบาย ผู้ว่าฯกทม. ภายใต้นโยบาย “เมืองปลอดภัย” เพื่อให้กรุงเทพฯ ต้องปลอดภัยสำหรับทุกคน
น.ส.ศศิกานต์ กล่าวว่า กำหนดแผนการทำงานไว้ 3 ระยะคือ ระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เน้นให้ความสำคัญกับเด็ก สตรี ผู้สูงอายุ LGBTQ และผู้ด้อยโอกาส ตนอยู่กรุงเทพฯ มาตั้งแต่อายุ 15 ปี จึงรับรู้ปัญหาของกรุงเทพฯ มาตลอด มีประสบการณ์ตรง จึงคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะช่วยกรุงเทพฯ เพื่อตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน
แม้จะเป็นผู้สมัครใหม่ แต่มองว่าเป็นข้อได้เปรียบ เพราะตำแหน่งผู้ว่าฯกทม. ไม่ใช่ตำแหน่งที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เนื่องจากมีหน่วยงานต่างๆ ที่รับผิดชอบดูแลส่วนต่างๆ อยู่แล้ว เช่น ถนน เสาไฟฟ้า สายสื่อสาร การทำงานของกรุงเทพฯ จึงต้องอาศัยการประสานงาน ซึ่งเราสามารถทำงานได้กับทุกพรรคการเมือง ทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย ที่มีนโยบายที่ดีเพื่อประชาชน จึงมองว่าหากผู้ว่าฯกทม. มาจากสังกัดพรรคใดพรรคหนึ่งก็จะไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่
“ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ใครที่ไม่หวังดีกับกรุงเทพฯ ขออนุญาตไม่ร่วมงานด้วย เราต้องทำงานเพื่อคนกรุงเทพฯอย่างแท้จริง เราไม่มีชนักติดหลัง หรือเงาสีทางการเมือง เป็นเพียงกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีความพร้อมที่จะทำงานกับคนทุกกลุ่ม ทุกพรรคที่ทำงานให้ประเทศไทย” น.ส.ศศิกานต์ กล่าว
ด้านนายวินท์ กล่าวถึงหลักนโยบายด้านบริหารของกลุ่มใส่ใจว่า ส่วนหนึ่งต้องยึดหลักทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว นโยบายสุขภาพ ใส่ใจปอด ลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 วางแผนเปลี่ยนระบบขนส่งในกรุงเทพฯ เป็นพลังงานสะอาด ประกอบด้วยแผนเริ่มตั้งแต่ 2 ปี 5 ปี และ 10 ปี ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ส่วนใหญ่เป็นตัวแทนของพรรคใหญ่ และเป็นชายวัยกลางคน โดยสถิติชายวัยกลางคนเป็นจำนวนที่น้อยนิดในกทม. คนส่วนใหญ่ในกทม.เกือบ 60% จะเป็นผู้หญิง จึงเสนอน.ส.ศศิกานต์ ที่เป็นผู้รู้จริงเป็นตัวแทนกลุ่มคนที่เยอะสุดในกรุงเทพฯ
เมื่อถามว่าการส่งน.ส.ศศิกานต์ ลงแข่งขันเป็นผู้ว่าฯกทม. เพื่อตัดคะแนนนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครจากพรรคก้าวไกล หรือไม่ นายวินท์ ยืนยันว่า การลงสมัครผู้ว่าฯกทม. ครั้งนี้ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาล จะอยู่ฝั่งไหน เราสามารถทำงานร่วมกันได้ ซึ่งตอนที่ตัวเองยังเป็นส.ส. ก็ไม่เคยไปทะเลาะเรื่องการเมืองกับใคร มีแต่ข้อเสนอเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และปากท้องประชาชน แม้กระทั่งตอนลาออกมา ก็ไม่ได้ไปทะเลาะกับใครดังนั้น การสนับสนุนน.ส.ศศิกานต์ ครั้งนี้ต้องการทำเพื่อแก้ปัญหาให้กับกรุงเทพฯอย่างแท้จริง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในงานแถลงข่าว ได้มีนายมาร์ค ไอน์สไตน์ เชื้อสายทายาทไอน์สไตน์มาร่วมให้กำลัง โดยระบุว่า อยากให้คนไทยมีความสุข
ขณะที่น.ส.ศศิกานต์ กล่าวว่า ตนกับมาร์ค ไอน์สไตน์ เป็นเพื่อนกันมา 20 ปีแล้ว เราเห็นปัญหาร่วมกันมากมาย โดยเฉพาะเรื่องการศึกษา เรื่องเด็ก กลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่ม LGBTQ ซึ่งถือเป็นประชากรกลุ่มใหญ่ของ กทม. แต่กลุ่มคนเหล่านี้ยังไม่มีใครที่จะมาเป็นผู้แทน เป็นปากเป็นเสียง และช่วยแก้ปัญหาให้กับพวกเขาอย่างแท้จริง
