“เสกสกล” ชง โมเดล ดึงแพลตฟอร์มเอกชน จับมือกองสลากฯ รับขายฝาก แบ่งส่วนต่างให้ผู้ขาย ป้อง “เกินราคา-รวมหวยชุด” พร้อมตั้งคกก.สกรีนโควต้าผู้ค้าเสรี ยัน โปร่งใส-ไม่เอื้อประโยชน์
เมื่อเวลา13.00น.วันที่ 6 เม.ย.ที่ห้องประชุมชั้น 2 สำนักงาน ก.พ.นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล แถลงผลประชุมฯ ว่า ที่ประชุมอนุกรรมการฯ หารือแนวทางแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในเบื้องต้น
โดยมีแนวคิดที่จะเสนอคณะกรรมการชุดใหญ่ พิจารณาการขายสลากไม่ให้เกิน 80 บาท โดยใช้วิธีให้สำนักงานสลาก จัดทำแพลตฟอร์มการขายขึ้นมาเอง เพื่อให้ผู้ได้รับโควต้าสลากทั้งกลุ่มมูลนิธิ กลุ่มเปราะบาง มาฝากขาย หรือหากสำนักงานสลากยังไม่พร้อม ให้ดึงแพลตฟอร์มของเอกชน ที่มีความเชี่ยวชาญมาเป็นคู่สัญญาในการจำหน่ายสลาก โดยออกกฎระเบียบ ควบคุมให้ถูกต้อง พร้อมกับระบุในสัญญาให้ชัดเจนว่าหากนำไปขายเกินราคาจะถูกดำเนินคดี
ยกตัวอย่าง การนำสลากมาขายฝาก อาจจะให้ส่วนต่างที่ใบละ 5 บาท ประชาชนทั่วไปได้โควตาคนละ 5 เล่ม คือ 500 ใบ ส่วนต่างใบละ 9.60บาท เท่ากับ 4,800 บาท รวมสองงวดจะได้ 9,600 บาท ถ้าฝากขายทั้งหมด และไม่น่ากังวลว่าจะเกิดปัญหารวมหวยชุดแล้วมาขายเกินราคา เนื่องจากเลขจะอยู่ในแพลตฟอร์มของกองสลาก ไม่สามารถเปลี่ยนมือได้
ตัวเลขตรงนี้ยังเป็นข้อเสนอ ต้องให้คณะกรรมการชุดใหญ่พิจารณาส่วนต่างตัวเลขที่เหมาะสมอีกครั้ง เพื่อประชาชนได้ประโยชน์จริงเพราะบางคนได้โควตาแต่ไม่สามารถขายได้หมด ก็นำมาขายให้กับกองสลาก สำหรับคุณสมบัติแพลตฟอร์มเอกชนที่จะมาเป็นคู่สัญญา ทางสำนักงานสลากฯจะต้องไปหารือและกำหนดคุณสมบัติอีกครั้ง โดยวิธีขายฝากลักษณะนี้ถือเป็นวิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่เร็วที่สุด
นายเสกสกล กล่าวว่า ที่ประชุมจะเสนอให้มีการตั้งคณะอนุกรรมการกลั่นกรอง ขึ้นมาคัดกรองที่มาของผู้ได้รับโควตาว่าเป็นตัวจริง หรือสวมสิทธิ์หรือไม่ โดยเฉพาะผู้ค้าเสรี ที่กดจองผ่านแอพพลิเคชั่นธนาคารกรุงไทย1.2 แสนราย ต้องมาตรวจสอบว่ามีการสวมสิทธิ์ หรือแอบอ้างชื่อหรือไม่ รวมถึงตรวจสอบคุณสมบัติต้องไม่ใช่ข้าราชการ คนมีฐานะอยู่แล้ว
เช่นเดียวกับจุดจำหน่าย 80 บาท ระดับอำเภอ 3 จุด ทางผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และผู้กำกับการตำรวจภูธรจังหวัด ต้องเข้ามาช่วยคัดกรองคุณสมบัติ และขึ้นทะเบียนผู้ประสงค์รับโควตาเป็นข้อมูลเอาไว้ หากพบว่าคนที่ได้รับสิทธิ์กระทำผิด ให้พิจารณาคนลงทะเบียนในลำดับถัดไปขึ้นมาแทน ยืนยันว่าคณะกรรมชุดนี้จะทำงานด้วยความโปร่งใสไม่เอื้อประโยชน์ให้กับใครอย่างแน่นอน
“ในที่ประชุมเห็นว่าควรกำหนดบทลงโทษกับผู้ที่ขายเกินราคา โดยเฉพาะความผิดทางแพ่ง ให้นำกฎหมายฟอกเงิน กฎหมายล้มละลายมาบังคับใช้ฟ้องร้อง รวมถึงต้องมีเบี้ยปรับ หรือยึดเงินหลักประกัน”นายเสกสกล กล่าว
เมื่อถามว่าการจับกุมผู้ค้าสลากออนไลน์ ถูกมองจะเป็นการเตะตัดขาเอกชน หรือไม่ นายเสกสกล กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่ใช่การเตะตัดขา แต่เพราะได้รับการร้องเรียนจากประชาชนเข้ามาเป็นจำนวนมาก จึงต้องทำตามหน้าที่
