ชัยวุฒิ ร่อนหนังสือ กก.ควบคุมยาสูบ ทบทวนมติห้ามนำเข้า-ขายบุหรี่ไฟฟ้า ชี้เปิดเสรี นำเข้าถูกกฏหมาย เก็บภาษีเข้ารัฐ สกัดเส้นทางการลักลอบขายออนไลน์

เมื่อวันที่ 29 เม.ย.2565 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า จากที่คณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบแห่งชาติ (คผยช.) ประชุมเมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา มีมติห้ามนำเข้าและขายบุหรี่ไฟฟ้าทุกรูปแบบในประเทศไทย ด้วยเหตุผลเพื่อป้องกันไม่ให้เยาวชนหรือประชาชนไม่ให้เข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้า

ทางกระทรวงดิจิทัลฯ ได้ติดตามเรื่องนี้มาตลอด เราพบว่าบุหรี่ไฟฟ้าเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีการขายออนไลน์จำนวนมาก เราจึงตั้งคณะทำงานเพื่อแก้ปัญหาการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าออนไลน์ โดยพบว่ามีการใช้อย่างแพร่หลาย เพราะประชาชนเชื่อว่า บุหรี่ไฟฟ้าเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าการสูบบุหรี่มวนหรือบุหรี่จริง

นอกจากนี้มีผลการศึกษาจากต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา หรืออังกฤษ ในยุโรปหลายประเทศเป็นประเทศที่เจริญแล้วกว่า 70 ประเทศ ศึกษาและยอมรับให้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าในประเทศนั้นได้ ซึ่งกลายเป็นสร้างปัญหา สร้างเงื่อนไขทำให้การลักลอบการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านระบบออนไลน์อย่างแพร่หลาย ซึ่งเราไม่สามารถปิดกั้นได้ มีการลักลอบ เรียกร้องเงินใต้โต๊ะเป็นผลประโยชน์มหาศาล ดังนั้น ถ้าเราทำให้ถูกกฎหมายและเก็บภาษีให้ถูกต้อง ก็จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศ

อีกประเด็น คิดว่าคณะกรรมการยาสูบแบนบุหรี่ไฟฟ้า โดยอาจไม่ได้ฟังความเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้องหรือข้อมูลทางวิชาการเป็นมติที่ไม่ชอบ ควรศึกษาอย่างรอบด้าน รับฟังความเห็นของผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย นำข้อมูลวิชาการของประเทศที่เปิดให้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าได้เอามาร่วมพิจารณาด้วยในการศึกษา ไปห้าม 100% มันไม่ใช่ทางออกของบริบทในสังคม ทำให้ประชาชนที่อยากมีทางเลือกใช้บุหรี่ไฟฟ้า ที่มีอันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวนก็ไปจำกัดสิทธิ์ของเขาด้วย เพราะวันนี้หลายประเทศยอมรับแล้วว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัยกว่าการสูบบุหรี่จริงมีสารพิษน้อยกว่า

ที่สำคัญ การอ้างว่าป้องกันเยาวชนและคนรุ่นใหม่เข้ามาสุบบุหรี่ ตนคิดว่าไม่ถูกต้อง เพราะปัจจุบันเยาวชนคนรุ่นใหม่ ถ้าอยากสูบบุหรี่ ก็ไปซื้อบุหรี่จริงอยู่แล้ว ซึ่งก็ไม่ได้ห้าม ตนคิดว่าจริงๆ ควรทำให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกต้องและเข้าอยู่ในระบบอยู่ในเกณฑ์เดียวกับบุหรี่จริง มีการควบคุมการโฆษณา ห้ามโฆษณา ห้ามจำหน่ายออนไลน์ อาจจะดีกว่าการที่ผลักให้ไปอยู่ใต้ดินที่ผิดกฎหมายและลักลอบขายออนไลน์กันทั่วไปในปัจจุบัน ซึ่งโดยระบบของเราไม่สามารถปิดกั้นหรือเทคดาวน์ได้ทั้งหมด

วิธีเดียวที่ดีที่สุดก็คือรับฟังความคิดเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้อง เปิดโอกาสให้บุหรี่ไฟฟ้าได้เข้ามามีส่วนแสดงความคิดเห็นให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับคณะกรรมการ หาทางออกร่วมกันที่ทำให้บุหรี่ไฟฟ้ามีที่ยืนในสังคมไทย เพื่อเราจะได้ควบคุมและใช้ประโยชน์ ดีกว่าเราผลักไปสร้างปัญหาอื่นๆตามมา ตนได้ทำหนังสือไปถึงคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบแห่งชาติ เพื่อให้ทบทวนมติการห้ามจำหน่าย และห้ามนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าทั้งหมด

จากข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติ ในปี 64 พบว่า ไทยมีผู้บริโภคยาสูบกว่า 10 ล้านคน และมากกว่าร้อยละ 52 ไม่มีความคิดจะเลิกบุหรี่ ซึ่งคนกลุ่มนี้ก็ควรได้รับข้อมูลที่ถูกต้องเป็นกลางเรื่องผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้าเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจในการบริโภค สิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เด็กและเยาวชนควรได้รับข้อมูลที่ถูกต้องว่า ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์สำหรับพวกเขา” นายชัยวุฒิกล่าว

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า มีข้อเสนอแนะว่า ควรมีกฎหมายที่กำหนดอายุขั้นต่ำในการซื้อขาย และกฎหมายที่ควบคุมคุณภาพของผลิตภัณฑ์เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ยาสูบอื่นๆ เพื่อให้ผู้บริโภคที่ยังไม่มีความคิดจะเลิกบริโภคยาสูบ สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์เหล่านี้ และอาจลดปริมาณสารพิษที่เกิดขึ้นในอากาศ รวมทั้งบุหรี่ไฟฟ้าจะมีมาตรฐานที่ควบคุมได้เช่นเดียวกันกับประเทศทั่วโลก

นอกจากนี้ นโยบายการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าที่เหมาะสม จำเป็นต้องพิจารณาผลประโยชน์ในภาพรวม ได้แก่ ประโยชน์ที่ผู้สูบบุหรี่ที่จะเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่อันตรายน้อยกว่า ประโยชน์ในการปกป้องผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ รวมถึงการป้องกันการเข้าถึงของเด็กและเยาวชน และประโยชน์ของผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ ที่ไม่ต้องรับสารพิษต่างๆ จากการเผาไหม้

นายชัยวุฒิ กล่าวย้ำว่า การพิจารณานโยบายเรื่องการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า อย่างเหมาะสมกับบริบทและความเป็นจริง ซึ่งตั้งอยู่บนหลักฐานการศึกษาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมทั้งนวัตกรรมสมัยใหม่ มีความสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยลดอันตรายในด้านสุขภาพ ให้กับผู้บริโภคยาสูบ และประชาชนโดยทั่วไป ขณะเดียวกันยังปกป้องคุ้มครองเยาวชนไม่ให้เข้าถึงสินค้าเหล่านี้ ผ่านช่องทางดิจิทัลโดยปราศจากการตรวจสอบควบคุม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน