จุติลุกโต้ งบสวัสดิการของรัฐบาล ไม่ได้อนาถา ครอบคลุมหลายมิติ ย้ำช่วยตรึงค่าครองชีพเพื่อประชาชนเต็มที่ แต่ทำตลอดไปไม่ได้ เพราะเงินมีจำกัด

วันที่ 31 พ.ค.2565 นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ชี้แจงข้อตำหนิว่าสวัสดิการรัฐบาลเป็นสวัสดิการอนาถา ในการอภิปรายงบประมาณ 2566 ว่าสวัสดิการรัฐไม่อนาถา ตนไม่อยากให้ดูแค่มิติเดียว อยากให้ดูในหลายมิติ ซึ่งร่างพ.ร.บ.งบที่ดูแลสวัสดิการของประชาชน ยืนยันว่าไม่อนาถา

โดยวัยเด็กก็มีงบสนับสนุนเด็กแรกเกิด งบประมาณกองทุนเพื่อความเสมอภาคและความศึกษา และงบประมาณชดเชยกรณีว่างงาน รวมถึงงบประมาณสำหรับผู้สูงอายุ ซึ่งมีเบี้ยสนับสนุนและสวัสดิการปรับปรุง

นอกจากนี้ยังมีระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า ระบบประกันสังคม หากดูให้ครบวงจรจะเป็นงบที่ดูแลอย่างครบวงจรและงบประมาณไม่ได้น้อย ส่วนที่พูดว่างบสงเคราะห์ศพตามประเพณี ต้องยอมรับว่าการตั้งงบประมาณล่วงหน้าสำหรับผู้เสียชีวิตนั้นไม่สามารถคาดการณ์ได้และเราก็ไม่รวยพอที่จะเบิกงบมากองเอาไว้ เผื่อใครเสียชีวิตและมีเงินชดเชยให้ แต่จะเบิกงบตามจำนวนผู้ที่เสียชีวิตจึงมีงบค้างตลอดเวลา

ยืนยันว่างบประมาณปี 2564 ไม่มีค้างแม้แต่รายเดียว ส่วนงบปี 2565 ที่มีค้าง 81,000 ราย เป็นตัวเลขที่ถูกต้องเป็นจำนวนเงิน 243 ล้านบาท ซึ่งงบประมาณในส่วนนี้รัฐบาลไม่ได้เพิกเฉยอยู่ระหว่างขออนุมัติงบกลางจากนายกฯ

ส่วนงบจัดทำศพผู้สูงอายุจาก 2,000 บาท เป็น 3,000 บาทต่อราย และเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่หลายคนบอกว่ารัฐบาลนี้ไม่ได้ทำตามสัญญา ก็ขอบอกว่าถ้างบประมาณเด็กแรกเกิด จะรู้ว่าเราเลือกตั้งตอนปี 2562 และปี 2563 ก็มีปัญหาโควิด-19 ปี 2564 ก็มีปัญหาโควิด-19 และปี 2565 ก็สวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกัน

ขอย้ำว่ารัฐบาลใช้เงินทุกบาททุกสตางค์ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการดูแลประชาชน รักษาดูแลชีวิตประชาชนอย่างเต็มที่ และตรึงค่าครองชีพช่วยประชาชนอย่างเต็มที่ แต่รัฐบาลไม่สามารถดึงค่าครองชีพได้ตลอดไปเพราะเงินมีจำกัด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน