นิพนธ์ แจงวุ่น ยันอัยการสูงสุด สั่งไม่ฟ้องคดีอาญา เนื่องจากป.ป.ช.ไม่สามารถชี้แจงข้อไม่สมบูรณ์ของสำนวนได้ อีกทั้งผู้ตรวจรับรถฯ ไม่มีอำนาจตรวจรับ

วันที่ 9 มิ.ย. 2565 ที่จ.สงขลา นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด กรณีไม่อนุมัติจ่ายเงินให้แก่บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด ผู้ขายรถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ชนิด 10 ล้อว่า ข้อเท็จจริงมีอยู่ว่า ป.ป.ช ได้ส่งสำนวนให้อัยการสูงสุด ดำเนินคดีอาญากับตน แต่อัยการสูงสุด ได้ชี้ข้อไม่สมบูรณ์ของสำนวนคดีที่ป.ป.ช.ทำมาใน 16 ประเด็น และได้ตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างผู้แทนฝ่ายอัยการสูงสุด และผู้แทนฝ่ายป.ป.ช.

แต่ผู้แทนฝ่ายป.ป.ช. ไม่สามารถชี้แจงข้อไม่สมบูรณ์ของสำนวนคดีได้ตามที่อัยการสูงสุดระบุความไม่สมบูรณ์ของสำนวนที่ป.ป.ช.ทำมาได้ อัยการสูงสุดจึงมีคำสั่งไม่ฟ้องตน และได้คืนสำนวนกดีกลับให้แก่ ป.ป.ช. ไปแล้วเมื่อวันที่ 16 มี.ค. 2565

นายนิพนธ์ กล่าวต่ออีกว่า การพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด ที่พิพากษาสั่ง อบจ.สงขลา ชดใช้เงิน 52 ล้านบาท ให้บริษัทพลวิศว์ฯ ในวันนี้ เป็นเรื่องเดิมที่มีมาก่อนที่ผู้ว่าฯสงขลา สั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคณะกรรมการตรวจสอบ ก็สรุปความเห็นว่าบริษัทพลวิศว์ฯ ทำผิดพ.ร.บ.ฮั้วประมูลจริง ซึ่งเป็นการพิจารณาในทางแพ่ง ไม่เกี่ยวข้องกับการพิจาณาในคดีอาญา และโดยหลักการพิจารณาทางแพ่งจะนำมาใช้กับการพิจารณาทางอาญาไม่ได้ แต่ทางอาญา สามารถนำไปปรับเข้ากับการพิจารณาทางแพ่งได้ กรณีนี้มีความย้อนแย้งกันกัน

ขณะเดียวกัน กองปราบปรามได้สรุปสำนวนแล้วว่า บริษัทพลวิศว์ฯ ได้กระทำผิดตาม พ.ร.บ.ฮั้วประมูล และส่งสำนวนไปให้ป.ป.ช.ได้พิจารณาเพิ่มเติม ประกอบกับในสำนวนที่ป.ป.ช. ทำไปยังอัยการสูงสุด เพื่อยื่นฟ้องนั้น ขณะนี้อัยการสูงสุด สั่งไม่ฟ้อง และได้ส่งสำนวนกลับไปยังป.ป.ช.แล้ว อีกทั้งได้ร้องขอความเป็นธรรมไปยังป.ป.ช.ให้พิจารณาเพิ่มเติมว่า นอกจากมีการฮั้วกันแล้ว การตรวจรับรถอเนกประสงค์ทั้ง 2 คัน ผู้ตรวจรับไม่มีอำนาจในการตรวจรับ จึงถือเป็นการตรวจรับโดยมิชอบ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน