เมื่อวันที่ 17 ม.ค. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ออกแถลงการณ์ในนามสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เรื่อง คนไทยไม่ได้กินแกลบกินหญ้าที่จะเชื่อว่านาฬิกาวนกันใส่

โดยแถลงการณ์ระบุว่าตามที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนกรณีข้อสงสัยเรื่องนาฬิกาหรูกว่า 24 เรือนที่ปรากฎตามภาพข่าวจำนวนมากที่ใส่มาหลายปีทำนองว่า “เป็นของเพื่อนที่วนกันใส่ ไม่ใช่ของตนเองสักเรือน และได้คืนไปหมดแล้ว” นั้นทางสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยเห็นว่าถ้อยแถลงดังกล่าวเป็นเพียงการแก้ตัวไปแบบน้ำขุ่นๆ ซึ่งหาเหตุผลรองรับแบบเบาหวิว เพื่อให้รอดพ้นจากข้อครหาและคมดาบของ ป.ป.ช. ซึ่งเชื่อว่าสังคมไทย และ ป.ป.ช. ก็คงไม่เชื่อตามไปด้วย เพราะนาฬิกาเรือนหรูแต่ละเรือนที่มีมูลค่านับล้านบาทนั้น ไม่ใช่นาฬิกาที่มีวางขายแบกับดินที่ขายกันตามตลาดโรงเกลือ ตลาดนัดจตุจักร กันเสียเมื่อไร หากแต่เป็นเครื่องประดับที่มีมูลค่ามหาศาล ที่คนไทยกว่า 99% ไม่มีปัญญาที่จะไปแสวงหามาสวมใส่ได้ และที่สำคัญนาฬิกาบางเรือนซึ่งปรากฎตามภาพข่าวที่บิ๊กป้อมสวมใส่นั้น เป็นรุ่น “ลิมิเต็ด”(Limited Edition) ซึ่งมีการผลิตหรือจัดทำขึ้นมาในจำนวนจำกัด เฉพาะผู้ที่สั่งทำเท่านั้น และจะมีการรันนัมเบอร์ว่ามีผู้ใดสั่งให้ทำและสั่งจองบ้าง อีกทั้งนาฬิกาแต่ละเรือนจะจัดทำสายรัดที่เป็นโลหะพอดีกับข้อมือของผู้สั่งทำเท่านั้น และหากจะมีการเพิ่มข้อสายรัดต้องเสียเงินแต่ละครั้งนับหมื่นถึงแสนบาท

ดังนั้นข้ออ้างของพล.อ.ประวิตรที่วนนาฬิกากันใส่ในกลุ่มเพื่อนฝูงนั้น จึงไร้เหตุผล ส่วนนาฬิกาที่มีสายรัดเป็นหนังนั้น โดยปกติทั่วไปนาฬิกาที่มีมูลค่าแพงระยิบขนาดนี้ เขาไม่นิยมวนกันใส่เพราะจะถูกเหงื่อไคลของผู้สวมใส่ซึมซับกับตัวหนัง ทำให้เกิดกลิ่นเฉพาะตนอันไม่พึงประสงค์ของผู้อื่นในสายนาฬิกานั้น ๆ ซึ่งจะทำให้คุณค่าหรือมูลค่าของนาฬิกาเสื่อมลงไปอย่างมาก ซึ่งไม่มีใครที่ไหนเขาทำกัน และหากบิ๊กป้อมยังคงยืนยันว่าเป็นนาฬิกาของเพื่อนจริง ก็เป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช.ที่จะต้องเรียกเพื่อนบิ๊กป้อมเจ้าของนาฬิกาทุกเรือนมาตรวจสอบวงรอบข้อมือของแต่ละคนว่าสามารถสวมใส่พอดีกับตนเองหรือไม่ด้วย จึงจะชอบ ด้วยเหตุดังกล่าว ข้ออ้างของบิ๊กป้อมจึงไม่มีน้ำหนักเหตุผลเพียงพอที่จะทำให้สมาคมฯและสังคมไทยเชื่อได้ว่าเป็นเหตุผลข้ออ้างของการมีนาฬิกาหรูจากเพื่อนแล้วมาวนกันใส่โดยไม่ต้องรายงานบัญชีทรัพย์สินต่อป.ป.ช. อันส่อไปในทางร่ำรวยผิดปกติได้ ทางที่ดีสมาคมฯขอแนะนำว่า ขอให้เปลี่ยนทีมที่ปรึกษาที่ต้องมาทำงานคิดค้นหาถ้อยคำหรือเหตุผลเพื่อใช้ในการแก้ต่างเรื่องนาฬิกาและแหวนนี้เสียใหม่ โดยระดมผู้เชี่ยวชาญในการเลี่ยงภาษีที่ถูกกฎหมายทั่วประเทศ และนักการเมืองที่เคยถูก ป.ป.ช.ลงดาบชี้มูลความผิดในด้านปกปิดบัญชีทรัพย์สินและร่ำรวยผิดปกติทั้งหมดมาเป็นทีมที่ปรึกษาเรื่องนี้แทน ซึ่งเชื่อว่าข้อแนะนำของท่านทั้งหลายเหล่านั้น น่าจะพอทำให้รอดพ้นจากวิกฤตนาฬิกาหรูในครั้งนี้ไปได้ ถ้าประชาชนคนไทยจะยังพอมีผู้ที่กินหญ้าและกินแกลบหลงเหลืออยู่บ้าง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน